รีเซต

ผลการค้นหา “TayNew Meal Date in JAPAN” - ทรูไอดี

ยอดนิยม
ดู
สิทธิพิเศษ
อ่าน
คลิปสั้น
เหตุการณ์ฟินๆ ชวนจิ้น ท้ายครัว🍳🍲 กับ Dating in the Kitchen
อ่าน

เหตุการณ์ฟินๆ ชวนจิ้น ท้ายครัว🍳🍲 กับ Dating in the Kitchen

อ้ะ ๆ  อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านกันนะคะ ดูแค่ตัวอย่างอาจยังไม่โดนใจเท่าไร เพราะอาจคิดว่า ซีรีส์จีนเรื่อง Dating in the Kitchen นี้ เอ๊ พระเอกแก่ไปไหม ไม่หล่อหรือเปล่า หยุดเลยค่ะ ทุกคนอย่าเพิ่งมองแค่ที่ภายนอก เพราะถึงลุงอาจจะดูแก่ไปนิด แต่ทำให้สาวน้อย ๆ นอนจิ้น จิกหมอนไปตาม ๆ กันเลยจ้า เพราะลุงเขาไม่ได้มาเล่น ๆ นะคะ พร้อมมาขโมยใจคนดูทุกคนและสาวน้อยนางเอกของเเรา กู้เซิ่งหนาน (รับบทโดย จ้าวลู่ซือ) เชฟสาวคนเก่งที่มัดใจนักธุรกิจใหญ่จอมหยิ่งจ้าวลู่จิ้น (รับโดยหลินอวี่เซิน) ที่ทั้งปากร้าย เรื่องมากได้อย่างอยู่หมัด จนแทบไปไหนไม่รอด เพราะติดรสมือความอร่อยของนางเอกสาววัยใสของเรา จนกินอย่างอื่นแทบไม่ได้ ความแตกต่างที่อย่างสิ้นเชิง กับนำพาให้โชคชะตาให้ทั้งคู่ได้มาพบกัน เป็นเหตุให้เกิดเรื่อง วุ่น ๆ ที่ชวนจั๊กจี้หัวใจ สองคนต่างวัย ที่จะมาทำให้คนดูกระชุ่มกระชวยกัน จะมีเหตุการณ์น่ารัก ๆ อะไรบ้างเราได้ชมกันเลยค่ะ  แค่อีพีแรกที่คุณลู่เปิดตัวมาช่วย (ช่วยให้รอดหรือช่วยให้ซวยกว่าเดิมก็ไม่รู๋) นางเองห้องครัวไฟไหม้ ก็ชวนให้อมยิ้มแล้ว เมื่อพระเอกของเราโดนนางเอกสาดน้ำใส่ เพราะไม่อยากให้สัญญาณดัง พระเอกชองเราแอบเคืองเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ไม่รู้เพราะว่าเอ็นดูหรือแค่อยากแกล้งหรือยังไงถึงเอากะละมังมาบังหัวจากน้ำให้ซะงั้น แหม ๆ ขนาดเห็นแค่ครึ่งหน้าก็จ้องขนาดนี้แล้ว เอ๊หรือที่มองเพราะเสื้อเชฟน้องบางกันแน่น๊า ร้ายนะลุง(แซว)นี่ก็ด้วยแค่คำแรกก็ลุงของเราก็โดนตกแล้ว   ตามมาด้วยช๊อตนี้ พระเอกจอมเนี้ยบของเราเจอนางเอกจอมซนของเราเมาแอ๋ปีนห้องมา ป่วน ถึงนางเอกของเราจะขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะแค่ไหน แต่พระเอกของเราสุภาพบุรุษมากเลยนะเออ  อุ้มพาไปนอนบนเตียงไปไม่พอ เห็นนางเอกของเราตกเตียงก็เอาหมอนมาลองไว้สงสัยกลัวนางเจ็บตัว โคตรน่ารักเลยจริงๆนะ ฟินต่อมาประธานลู่ของเราก็ทนความหิวตัวเองไม่ไหว ลงมาหาของกินถึงในครัว มาเจอหม้อซุปที่ยังไม่เสร็จพอดี ก็เลยจัดไปเลยคำโต ๆ หารู้ไม่ว่ามันยังไม่สุก เป็นเหตุเกือบตาย (ตายเพราะปากเป็นงี้นี่แหละ) เลยโดนนางเอกเราจับล้างท้องด้วยน้ำยาล้างจานซะเลย (ฮาฮ่าฮา) ฉากนี้คือแบบฮามาก ไม่พอเท่านั้นชียังสำลักออกมาเป็นฟองให้นางเองจิ้มเล่นอีกต่างหาก งานนี้ประธานลู่จิ้นอายแบบไม่รู้จะอายยังไรแล้วเพราะคลิปหลุดว่อนโรงแรมเลย ช๊อตนี้ขำแบบไม่ไหวแล้ว  ลุงเราหล่อไหมคะ ที่เห็นใส่แว่นออกมาพร้อมว่าลุงเขินนะ (ฮาฮ๋าฮา) เขินยังไงให้กร้าวใจขนาดนี้คะจิ้นต่อมา พระเอกของเรา ไปทวงหนี้ (อาหาร) เจอแผนเด็ดของนางไปที ถึงกับเสียอาการไปเลยจ้า น่ารักขนาดนี้ลุงไม่หลงก็บ้าแล้ว แต่งตัวนารัก ๆ ยิ้มหวาน ๆ แบบนี้ลุงเขาจะไปไหนรอดคะลุงเราก็ไมยอมง่าย ๆ นะคะ ประธานลู่ของเราก็ร้ายใช่เล่น รู้ว่าเด็กอ่อยมาก็อ่อยกลับสิครับ รออะไร ไม่รู้เหมือนกันนะว่าสงครามการอ่อนครั้งนี้ใครจะชนะ เอาเป็นว่า เสียอาการทั้งคนอ่อยทั้งคนโดนอ่อนเลยจ้า เห็นแล้วเขินแทนเลย ///น้ำตาลเป็นเหตุสังเกตได้ กับ ปากกาอยู่ในเสื้อหรือบนตู้ (แฮร่) บ้านมืดนักใช่ไหม จัดไปเลยค่ะ แชนเดอร์เรีย ตามทางเดิน รวยเกินไปค่ะท่านประธานกลายเป็ณว่าโดนนางเอกว่าเอาเฉยเลย (ไม่ร้องนะลุง)  นี่ก็เป็นอีกซีนที่ทั้งฮาและประทับใจ ลุงเรารู้ว่านางเอกบาดเจ็บ แถมพายุก็จะเขานั่งเครื่องไม่ได้ ลุงเราเลยยอมจ้างรถ เพื่อนั่งมาสิบกว่าชั่วโมง เพื่อมาดูนางเอกและทะเลาะกัน ?  แต่ได้ไปหนึ่งจุ๊ฟ สิบชั่วโมงนี้ก็คุ้มแล้วเนาะลุง จิ้นเกอเกอ กับ คุณลู่จอมเป๊ะ  ที่กู้เซิ่งหนานทำให้ ทั้งน่ารักทั้งอร่อย จนอาหารที่ใครบางคนทำให้เป็นม้ายไปเลยจ้า (ทั้งสงสารทั้งสะใจเลยค่ะช๊อตนี้)     ต่อมาคือสเต็ปความขี้ขิง เห็นนิ่ง ๆ แบบนี้ไม่ยอมให้ใครง่าย ๆ นะคะโดยเฉพาะเรื่องนางเองของเรา ขิงที่1 ขิงว่าอยู่ข้างของ ขิงที่2 ขิงว่าตัวเองกินเค้กนางเอกได้ชิ้นใหญ่กว่า ขิงที่3 ขิงว่าใครดูเหมือนมีซัมติงกับนางเอกของเรามากกว่ากัน โอ้ยลุงขิงได้ทุกเรื่องเลยนะยอมๆๆๆ ค่ะเห็นแล้วอิจฉา กู้เซิ่งหนาน มากอ่ะ ผู้ชายแย่งกันเช็ดปากแบบนี้ ฮือ โปรไฟล์ดีๆ ทั้งนั้นเลย ขวาทิชชู่ ซ้ายผ้าเช็ดหน้าค่ะ สรุปนางเลียปากเอง นกทั้งคู่ (ฮาฮาฮา) นี่ก็เป็นอีกซีนที่นารักมากสำหรับพระเอกเรา ที่เห็นรูปคู่(จริง ๆก็รูปสามคนนั่นแหละ) นางเอกกับผู้จัดการที่มาอบรมด้วยกัน แหม่ เห็นแค่นี้ถึงกับต้องมาดูถึงที่ พอเห็นเขาใกล้ชิดกันนิด ๆ หน่อย ๆ ลุงเราก็ของขึ้นซะแล้ว แหมมีแฟนเด็กต้องหมั่นตรวจเช็กใช่เปล่าคะ แหมมมม คนน้องโดนแตะเนื้อต้องตัว (เขาแค่สอนยิงธนูเองนะเอาจริง) เข้าหน่อยนี่ตาวาวเลยนะคะ  ปรับลุคสักหน่อยค่อยไปหาแม่ แหมแค่น้องแต่งตัวเป็นสาวเข้าหน่อยต้องไม่ต้องอ้าปากค้างก็ได้ค่ะ (หลงเด็กหนักมากไหมคะ) กำลังงอนง้อกันอยู่ดี ๆ ไอ้เจ้ากาน้ำร้อนตัวดีก็ดังซะได้ โอ้ยขัดใจคนดูอ่ะ แต่ไหน ๆ ก็ขัดจังหวะแล้วก็อุ้มไปดูกาน้ำด้วยกันซะเลยสิเป็นไง ร้องดีนัก  ฉากนี้ก็เป็นอีกฉากที่ เจ็บใจแทนนางเอกมาก โดนดูถูกว่าเป็นแค่เชฟไม่พอ ยังมาบอกให้รู้จักหน้าที่ของตัวเอง เดี๋ยวนะคะใช่ค่ะหน้าที่ของเชฟคืออยู่ในครัว แต่หน้าที่คนรักของลูกชายคุณก็คืออยู่ข้างกายกันก็ถูกแล้วนี่คะ คราวนี้พระเอกถึงกับโมโหไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้นแถมไล่รองประธานหลีไปทำอาหารด้วย(สะใจมากค่ะ) ไม่พอยังลุกมาช่วยนางเองทำอาหารเสริฟให้  เอาสิผมก็ชอบทำอาหารเหมือนกัน (ลุงโมโหแล้วนะ) ช๊อตนี้ได้ใจไปเต็ม ๆ ค่ะ จิ้นเกอเกอและฉากล่าสุด คือกินใจมาก นางเอกของเราเสียใจกับเรื่องที่เจอมาจะโดนเชฟคนเก่าที่เคยมีเรื่องทำร้าย พระเอกของเราก็มาช้วยไว้ได้ทัน จนโดนขวดฟาดหัวแตกไปที (กล้ามาทำลุงลู่ได้ไง) เลือดอาบหน้าจนนางเอกน้าตาไหลเลยค่ะ "ฉันไม่อยากให้เธอเจ็ยตัว....เธอมีค่าสำหรับฉัน"โอ้ยฟังแล้วใจบางค่ะ  "ทำไมถึงทำแบบนี้ฉันไม่ได้มีค่าขนาดนั้น""เพราะเธอคือคนที่ฉันรัก"เธอดอกนี้เข้าไปใครไหวไปก่อนเลยจ้า คือแบบฮือ ฟินมากค่ะ พูดมาแบบนี้ก็ได้รางวัลไปสิจูบหนักๆ สักทีเป็นไงถือว่าปลอบใจพระเอกเราที่หัวแตกแทน ร่ารักจนาดนี้ ไม่ดูไม่ได้แล้วนะคะทุกคนน ใครไปดูถือว่าพลาดมาก ๆ เลยนะ จะบอกให้ ฟังเพลงประกอยซีรีส์น่ารัก ๆ  ได้ที https://www.youtube.com/watch?v=SY9MRMu1KgU  ชื่อเรื่อง ฝากรักไว้ที่ท้ายครัว Dating in the Kitchenจำนวน 24 ตอนรับชมได้ที่ wetvเครดิตรูปภาพ : ภาพทั้งหมดโดย WeTV 

Summer in Japan : ไปเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูร้อนกัน
อ่าน

Summer in Japan : ไปเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูร้อนกัน

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เที่ยวได้ในทุกฤดู ขึ้นอยู่กับว่าเราเป็นคนชอบเที่ยวในสไตล์ไหน หน้าร้อนของญี่ปุ่น เริ่มประมาณเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม อุณหภูมิก็ประมาณสามสิบองศา เซลเซียสขึ้นไป ซึ่งก็ร้อนพอ ๆ กับบ้านเรา โดยเฉพาะในเดือนกรกฎาคม อากาศบางช่วงอาจจะร้อนกว่าบ้านเราด้วยซ้ำ ฤดูร้อนมีอะไรพิเศษ กว่าฤดูหนาว ใบไม้ร่วง หรือใบไม้ผลิ เราจะพูดถึงการเที่ยวในฤดูร้อนของญี่ปุ่น แบบกว้าง ๆ ไม่ระบุเมืองใดเมืองหนึ่งโดยเฉพาะ แต่อาจจะเน้นไปเที่ยวในเมืองที่เดินทางได้สะดวกจากโตเกียว ฤดูร้อนเป็นฤดูที่เราสามารถชมความงามของทุ่งดอกไม้ หรือ ดอกไม้หลากชนิดได้ เช่น ไฮเดรนเยีย ป๊อปปี้ ลาเวนเดอร์ ทานตะวัน เป็นต้น หรือคนที่รักธรรมชาติ ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งเช่น เดินป่า ปีนเขา ก็จะสามารถไปทำกิจกรรมเหล่านี้ได้ เช่นปีนฟูเขาไฟฟูจิ ซึ่งจะสามารถทำได้ประมาณต้นเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกันยายน กำหนดการในแต่ละปีก็จะไม่เหมือนกัน ทุ่งลาเวนเดอร์ ไม่ไกลจากโตเกียวก็มีทุ่งลาเวนเดอร์ให้เราได้ไปเยี่ยมชมกัน อาจจะไม่สวย หรือเป็นทุ่งใหญ่ๆ เหมือนแถวโพรวองซ์ ฝรั่งเศส หรือ ฮอกไกโด แต่ก็ได้บรรยากาศที่แตกต่างออกไป เราได้มีโอกาสไปเยือน ทุ่งลาเวนเดอร์ ที่ Tambara ซึ่งอยู่บนเขาสูง หน้าหนาวที่นี่จะเป็นลานสกี อากาศแถวนั้นค่อนข้างเย็น วันที่เราไปมีหมอกปลกคลุม ทำให้สวยไปอีกแบบ ทุ่งดอกไม้อื่น ๆ ที่ไม่ไกลจากโตเกียว เช่น Yamanakako Hanano Miyako Park ในจังหวัด Yamanashi ถ้าอากาศดี ๆ เราสามารถเห็นทุ่งทานตะวัน พร้อมกับฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ ที่นี่นอกจากดอกทานตะวันแล้ว ยังมีดอกไม้อื่น ๆ เช่น ทิวลิป คอสมอส ไฮเดนเยียร์ ผลัดเปลี่ยนกันไปตามฤดูกาล ใส่ยูกาตะเดินเล่นในย่านเมืองเก่า อย่างย่าน Asakusa หรือ เมือง Kawagoe ก็ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะไม่มีเพื่อน เพราะเราจะเห็นทั้งคนญี่ปุ่นเอง และนักท่องเที่ยวใส่ยูกาตะ ออกมาเดินเล่นกันในย่านเมืองเก่านี้ ร้านเช่าก็จะมีอยู่ทั่วไป มีทั้งแบบที่ต้องจองล่วงหน้า และสามารถเข้าไปได้เลยโดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้า เราเลือกร้านที่ไม่ไกลจากย่านเมืองเก่าที่ราคาค่าเช่าไม่แพง เช่นร้าน Vivian ในเมืองคาวาโกเอะ ซึ่งราคาค่าเช่ารวมทุกอย่างไว้หมดแล้ว คือรวมทำผม เครื่องประดับ กระเป๋าถือ รองเท้า ร่ม พัด ที่ร้านมีชุดให้เลือกเยอะมาก สารพัดสี และพนักงานในร้านช่วยแต่งตัวให้ แบบรวดเร็วมากใช้เวลาแต่งตัวและ ทำผมรวมกันประมาณ 10-15 นาที ต่อคน ชมดอกไม้ไฟ ถ้าใครเป็นคนที่ชอบชมดอกไม้ไฟ ฤดูร้อนในญี่ปุ่นก็มีงานแสดงดอกไม้ไฟ ในหลายเมือง ซึ่งสามารถติดตามตารางวันและเวลาได้ตามเวปไซด์ต่าง ๆ ของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ไปเดินเล่นในเมืองประวัติศาสตร์อย่างนิกโก้ World Heritage Site แถวนั้นอากาศดี บรรยากาศร่มรื่น ต้นไม้ปกคลุม โดยเฉพาะในบริเวณศาลเจ้าต่าง ๆ  จะเลือกเดินทางจากโตเกียวแบบไปเช้าเย็นกลับก็สะดวก เดี๋ยวนี้มีรถไฟ JR-TOBU NIKKO EXPRESS ที่สามารถใช้พาสอย่าง Tokyo Wide Pass ออกจากสถานีโตเกียว หรือ อูเอโนะ แล้วโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน หากมีเวลาหลายวันจะพักที่นิกโก้ เพื่อเที่ยวชมน้ำตก ทะเลสาบ ก็ฟินไปอีก ที่สำคัญคือหากไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อน ควรหลีกเลี่ยงช่วงที่เป็นวันหยุดยาว ของคนญี่ปุ่น เพราะช่วงนั้น ชาวญี่ปุ่นจะออกเดินทางไปต่างจังหวัด กลับบ้านเกิด หรือว่าออกไปท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งปีนี้ Mountain Day จะหยุดกันตั้งแต่วันที่ 8-10 สิงหาคม และ Obon ตั้งแต่วันที่ 13-16 สิงหาคม ถ้าใช้พาสต่าง ๆ ในการเดินทาง ก็สามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้บนเว็ปไซด์ของ JR ซึ่งถือว่าสะดวกมาก  @ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน  

วง Frederic J-Rock in japan จากเพลงดัง "oddloop"
อ่าน

วง Frederic J-Rock in japan จากเพลงดัง "oddloop"

วันนี้จะมากแนะนำ วงร็อค จากแดนปลาดิบ วง Frederic เป็นวงที่มากจาก Kobe และได้เซ็นสัญญากับต่ายเพลง A-Sketch Music ย่าน  Shibuya ซึ่งมีสมาชิกในวงทั้งหมด 4 คน จุดเริ่มต้นเกิดจาก Mihara Kenji นักร้องวง และ Mihara Koji มือเบส  2 พี่น้องฝาแฝดที่มีใจรักในด้านดนตรี มี  Ryuji  Akashira เป็นมือกีต้า ส่วน Kasu มือกลองได้ลาออกจากวงเพื่อไปทำธุรกิจตัว ต่อมาวง Frederic ก็ได้มือกลองคนใหม่ Takeshi Takahashi มาแทน ชื่อวง Frederic นั้นมาจากนิทาน เจ้าหนู Frederic ที่ Mihara Kenji ชอบอ่านในวัยเด็ก                                           Photo credit from  https://www.facebook.com/frederic.official/                                        Photo credit from  https://www.facebook.com/frederic.official/ เมื่อได้ทำความรู้จักกับ วง Frederic ไปบ้างแล้วเรามาพูดถึงเพลง ที่ประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียวสำหรับ Frederic คือ เพลง oddloop  เป็นมินิอัลบั้ม เปิดตัวเมื่อ 24 สิงหาคม 2014 และโด่งดันเพียงชั่วข้ามคืน กับทางเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ที่ฮิตมากมีการ cover ท่าเต้นเพลงนี่มากมายกันเลยทีเดียว ซึ่งได้ Yuho Uchida และ  Aris Mukaide  มาเป็นนางเอก MV ถือว่าเป็น MV ที่มียอดวิวสูงถึง 64,000,000                 Photo credit from YouTube フレデリック「オドループ」Music Video | Frederic "oddloop" และต่อมาก็มี single ใหม่ อย่าง  เพลง Kannashii Ureshii  , Only Wonder , Kitaku Beats  และ single ใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นาน Vision ที่มีความผสมผสาน สไตล์ 80 ได้อย่างลงตัว                                                   Photo credit from  https://twitter.com/frederitter ซึ่งผู้แต่งเพลงทั้งหมดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มือเบส วง Frederic  Mihara Koji นั่นเอง นอกจากจะรับผิดชอบแต่งเพลงทั้งหมดของวงแล้ว ยังมีหน้าที่ออกแบบสินค้า และ Graphic Design ต่างๆของวงด้วย ก็เพราะ Mihara Koji  ได้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร Visual Design จากมหาวิทยาลัยโอซาก้าจูเนียร์คอลเลจ  นี่เอง                    Graphic Design  by Mihara Koji   Photo credit from   https://twitter.com/miharakojimeme Frederic เคยมาร่วมงาน Space Shower ที่เมืองไทย ในงาน "Space Shower Retsuden ASIA TOUR 2017 powered by MCIP" ด้วยนะ   หวังว่าจะการแนะนำนี้จะทำให้ทุกคน Enjoy กับแนวเพลง  J-Rock อย่าง วง Frederic  อาจจะมีความนิยมน้อยสำหรับประเทศไทย เพราะด้วยเหตุผลที่ว่าศิลปิน ญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างติดตามยาก แต่ถ้าได้ทำความรู้จักแล้วจะติดใจเพราะความทุ่มเท และตั้งใจของพวกเขา มันทำให้เสียงเพลงทุกท่วงทำนอง มีคุณค่า ความสำเร็จที่ไม่ได้มาง่ายๆ  หากใครเคยมีโอกาสไปชมเทศกาลดนตรีที่ญี่ปุ่นบอกได้เลยว่า ไม่ผิดหวังแน่นอน 

แฟนคลับส่งกำลังใจให้ 11 หนุ่มก่อนงาน ‘GMMTV Fan Fest 2022 Live in Japan’ วันแรก แรงติดเทรนด์ทวิตเตอร์
อ่าน

แฟนคลับส่งกำลังใจให้ 11 หนุ่มก่อนงาน ‘GMMTV Fan Fest 2022 Live in Japan’ วันแรก แรงติดเทรนด์ทวิตเตอร์

11 หนุ่มหล่อ GMMTV บินลัดฟ้าเสิร์ฟความสนุกสุดฟินให้กับแฟนๆ ชาวญี่ปุ่น ในงาน GMMTV Fan Fest 2022 Live in Japan ซึ่งจัดงานวันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนเริ่มงานเหล่าแฟนคลับต่างทวีตข้อความให้กำลังใจกับ 11 หนุ่มจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ วันนี้ (27 สิงหาคม 2565) ร้อนแรงติดเทรนด์อันดับ 1 บนทวิตเตอร์ไทยไปแล้ว จากการที่เหล่าแฟนคลับต่างร่วมติดแฮชแท็ก #GMMTVFanFest2022JPD1 พร้อมร่วมส่งข้อความให้กำลังใจทั้ง 11 หนุ่ม ประกอบไปด้วย ไบร์ท วชิรวิชญ์, วิน เมธวิน, ดิว จิรวรรตน์, นานิ หิรัญกฤษฎิ์, คริส พีรวัส, เต ตะวัน, นิว ฐิติภูมิ, เอิร์ท พิรพัฒน์, มิกซ์ สหภาพ, นนน กรภัทร์ และ โอม ภวัต ก่อนเริ่มงาน GMMTV FAN FEST 2022 LIVE IN JAPAN ที่จัดขึ้นวันนี้ เป็นวันแรก สำหรับงาน GMMTV FAN FEST 2022 LIVE IN JAPAN ครั้งนี้ศิลปิน GMMTV ได้บินลัดฟ้าไปมอบความสุขให้กับแฟนๆ ชาวญี่ปุ่น พร้อมทั้งมีโชว์สุดพิเศษที่แฟนๆ พลาดไม่ได้ โดยงานมีกำหนดจัดขึ้นวันที่ 27-28 สิงหาคม 2565 จัดที่ PIA Arena MM ในประเทศญี่ปุ่น ขอบคุณภาพจาก Facebook :GMMTV อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : "ไบร์ท-วิน-ดิว-นานิ" F4 THAILAND รวมตัวอีกครั้ง เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นไอจี "ไบร์ท-วิน-คริส-โอม-นนน" ทำทวิตเตอร์ฮอต บินพบแฟนที่ญี่ปุ่น! รวมลิงค์ดูละคร F4 Thailand หัวใจรักสี่ดวงดาว ย้อนหลัง ทุกตอน ช่อง GMM25 กดเลย community แห่งความบันเทิง📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวมทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

รีวิว Queer Eye: We're in Japan มาเติมพลังบวกในวันหม่น ๆ ด้วยเรียลิตี้โชว์กันเถอะ
อ่าน

รีวิว Queer Eye: We're in Japan มาเติมพลังบวกในวันหม่น ๆ ด้วยเรียลิตี้โชว์กันเถอะ

เพื่อน ๆ ทำยังไงในวันที่ใจรู้สึกหม่น ๆ บ้างคะ? บทความรีวิวชิ้นนี้เราอยากมาแบ่งปันเทคนิคเติมพลังบวกง่าย ๆ ด้วยการดู Queer Eye ค่ะ เรียลิตี้โชว์ที่จะเติมพลังบวกของคุณให้เต็มถัง แล้วมาก้าวข้ามวันที่หม่นหมองไปด้วยกันนะคะ  Queer Eye คือ เรียลิตี้โชว์เกี่ยวกับการเมกโอเวอร์ผู้คนค่ะ ดำเนินรายการโดยเกย์ 5 คน ที่มีความเชี่ยวชาญ 5 ด้าน ในนาม The Fab Five ซึ่งคอนเซ็ปต์รายการก็ตรงตัวเลยคือการเมกโอเวอร์ผ่านสายตาเกย์ 5 คน ที่จะเข้ามาดึงศักยภาพของคุณใน 5 ด้านที่ The Fab Five เชี่ยวชาญ   ในแต่ละตอนของ Queer Eye จะเลือกโจทย์จากผู้คนที่ส่งเรื่องราวเข้ามา เป็นเรียลิตี้โชว์สัญชาติอเมริกันสุดปังที่ตอนนี้ก็ดำเนินมาถึง season ที่ 5 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้ง season พิเศษ เมกโอเวอร์ผู้โชคดีชาวญี่ปุ่น ในชื่อ season ที่ว่า Queer Eye: We’re in Japan ซึ่งเป็น season ที่น่าสนใจมาก ด้วยบริบทที่เปลี่ยนไปจากการเมกโอเวอร์ชาวตะวันตกมาเป็นการเมกโอเวอร์ให้กับชาวตะวันออกที่มีบริบททางวัฒนธรรมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง  ซึ่งการดู Queer Eye ในแต่ละตอนนั้นเราจะได้รับพลังบวกจากวิธีการเมกโอเวอร์ของ The Fab Five อยู่แล้ว เนื่องจาก หัวใจสำคัญของการเมกโอเวอร์ที่ The Fab Five ใช้นั้น จะเน้นที่การปรับจูนทัศนคติ ทำลายกำแพงให้พร้อมรับการเมกโอเวอร์ก่อน แล้วจึงค้นหาความชอบหรือความฝันที่เก็บอยู่ในตัวผู้คนเหล่านั้นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการดึงศักยภาพที่ซ่อนอยู่ออกมาเฉิดฉายให้กลายเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นได้อีก   และนอกจากวิธีการทำลายกำแพงบางอย่างที่กดศักยภาพของเราเอาไว้แล้ว ก็ยังมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ The Fab Five แชร์ในรายการ ด้วยความที่ The Fab Five จะเข้ามาช่วยเมกโอเวอร์กันคนละด้านตามความเชี่ยวชาญของแต่ละคน เช่น ด้านทรงผม ด้านเสื้อผ้า ด้านการตกแต่งบ้าน เป็นต้น ดังนั้น ระหว่างการเมกโอเวอร์เราก็จะได้เทคนิคต่าง ๆ เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กับตัวเองได้ด้วย ทำความรู้จักกับ Queer Eye และวิถีของ The Fab Five กันมาพอสมควรแล้ว จากนี้ไปเราก็จะมาลงรายละเอียดกันอีกสักหน่อยว่า ความเชี่ยวชาญของ The Fab Five มีอะไรบ้าง รวมถึงเนื้อหาในแต่ละตอนของ Queer Eye: We’re in Japan ด้วย เผื่อตอนไหนตรงใจเพื่อน ๆ ก็พุ่งตรงไปดูตอนนั้น ๆ ได้ก่อนเลย เพราะแต่ละตอนเนื้อหาแยกอิสระออกจากกันอยู่แล้ว   The Fab Five:แทน ฟรานส์ (Tan France) ดูแลด้านเสื้อผ้าแฟชั่นดีไซเนอร์ลูกครึ่งอังกฤษ-ปากีสถาน เป็นมุสลิมในวงการบันเทิงตะวันตกคนแรกที่เปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์ ในบางตอนของ Queer Eye แทน ก็ได้แบ่งปันประสบการณ์อันแสนเจ็บปวดและยากลำบากสำหรับชาวมุสลิมที่เป็นเกย์ด้วย ส่วนผลงานในการดูแลด้านเสื้อผ้าของ แทน ในรายการ เรียกได้ว่า สามารถเปลี่ยนลุคได้ในพริบตา  โจนาธาน แวน เนสส์ (Jonathan Van Ness) ดูแลด้านทรงผมโจนาธาน เกิดในครอบครัวนักข่าว ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสำนักข่าวท้องถิ่นโด่งดังและเก่าแก่มายาวนาน ซึ่งโจนาธานคือรุ่นที่ 6 ของครอบครัวที่จะสืบทอดธุรกิจนี้ต่อไป แต่ตัวเขาเองสนใจด้านการทำผม จนถึงขั้นมีร้านทำผมเป็นของตนเองในลอสแอนเจลิสและนิวยอร์ก แม้กระนั้น เขาเองก็มีประสบการณ์อันเลวร้ายเกี่ยวกับการถูกล้อเลียนเพศสภาพและรูปลักษณ์หน้าตามาตลอดตั้งแต่เด็ก สิ่งเหล่านี้ทำให้แนวทางในการดูแลทรงผมของ โจนาธาน ในรายการ ไม่ยึดติดกับมาตรฐานความสวยหล่อของสังคม เชื่อว่าทุกคนสวยและหล่อได้ในแบบของตนเอง และ โจนาธาน มักมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการดูแลเส้นผมรวมถึงสกินแคร์มาแบ่งปันในรายการเสมอ  บ็อบบี เบิร์ก (Bobby Berk) ดูแลด้านงานออกแบบหลัก ๆ บ็อบบี จะรับหน้าที่ออกแบบพื้นที่ใช้สอยของที่อยู่อาศัย ไม่เพียงแค่ตกแต่งภายใน แต่ออกแบบพื้นที่แต่ละจุดของบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของโจทย์ในแต่ละตอน และ บ็อบบี ก็ทำผลงานออกมาได้มหัศจรรย์ในทุก ๆ ตอน รับรองว่าเพื่อน ๆ ที่ชอบตกแต่งบ้านต้องได้ไอเดียเจ๋ง ๆ ไปใช้กับตัวเองได้บ้างไม่มากก็น้อย  คาราโม บราวน์ (Karamo Brown) ดูแลด้านวัฒนธรรมอาจจะดูงง ๆ ว่าการดูแลด้านวัฒนธรรมคืออะไร? จริง ๆ แล้วน่าจะเรียกว่าดูแลด้าน Mindset มากกว่า คาราโม จะเข้ามาคุยกับโจทย์ในแต่ละตอน ค้นหาปมที่ทำให้เกิดการแสดงออกในอย่างที่เป็น แล้วใช้เทคนิคหลากหลายในการกระเทาะเปลือกแข็งที่ห่อหุ้มปมเหล่านั้นให้แตกออก โดย คาราโม จะเข้ามาช่วยดูแลกระบวนการทางความคิด การปรับทัศนคติ ให้มองโลกในแง่มุมที่ควรจะเป็น เห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น อภัยให้ตัวเองมากขึ้น เพื่อให้เขาและเธอเหล่านั้นพร้อมรับการเมกโอเวอร์มุ่งสู่การเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นได้อีกนั่นเอง ในรายการดูเหมือนผลงานของ คาราโม จะจับต้องได้ยากกว่า The Fab Five คนอื่น ๆ แต่เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของการเมกโอเวอร์ และกระบวนการของ คาราโม นี่หล่ะ ที่จะช่วยส่งผ่านพลังบวกให้คนดูอย่างเรา ๆ ได้ด้วย  แอนโทนี โปโรวสกี (Antoni Porowski) ดูแลด้านอาหารแอนโทนีจะออกแบบเมนูง่าย ๆ ทำเองได้ แต่หรูหราก๋ากั่นที่สุด คนชอบทำอาหารน่าจะชอบช่วงของแอนโทนี ทำง่าย โชว์ได้ อิ่มด้วย และเขาเองก็เป็นคนที่สนใจอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะฉะนั้น เมนูต่าง ๆ ที่แอนโทนีสอนในรายการ ก็จะเป็นเมนูเพื่อสุขภาพด้วยเช่นกัน  ทำความรู้จักกับ The Fab Five กันแล้ว มาดูกันต่อว่าโจทย์ใน Queer Eye: We’re in Japan มีใครกันบ้าง Queer Eye: We’re in Japan ตอนที่ 1 โยโกะซังโยโกะซัง หรือ โยโกะ ซาคุมะ เธอเปิดบ้านและอุทิศตัวเองเพื่อดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ทุกวินาทีของเธอมีไว้เพื่อดูแลผู้อื่น แม้กระทั่ง ห้องนอนของตนเองก็เปิดให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้พักพิง ส่วนตัวเธอก็ออกมาปูผ้านอนใต้โต๊ะแทน ความทุ่มเทของเธอทำให้เธอมองข้ามการดูแลตนเอง อะไรที่ทำให้เธอต้องทุ่มเททั้งกายและใจเช่นนั้น และ The Fab Five จะทำให้เธอกลับมาดูแลและเห็นคุณค่าของตนเองพอ ๆ กับที่เธอเห็นคุณค่าของผู้อื่นได้อย่างไร เรื่องราวและการเมกโอเวอร์ในตอนนี้น่าประทับใจมากค่ะ  ตอนที่ 2 คังคัง เด็กหนุ่มวัย 27 ปี รู้ตัวว่าเป็นเกย์มาตั้งแต่ 5 ขวบ แต่ไม่สามารถเปิดตัวได้ด้วยค่านิยมของชาวญี่ปุ่นที่ยังไม่เปิดรับเพศสภาพอื่นนอกจาก ชาย และ หญิง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาต้องหลบซ่อนตัวตนภายใต้ภาพลักษณ์ที่เรียบง่ายไม่โดดเด่น ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม แต่ในคราวนี้ The Fab Five จะเข้ามาปรับลุคให้คังได้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องกลัวเมื่อเราแป๊ะทั้งตัวน๊ะจ๊ะซิส  ตอนที่ 3 คาเอะนักวาดมังงะ เธอเคยได้รับโอกาสที่ดีที่สุดจากสำนักพิมพ์ในฐานะนักวาด นั่นคือ การออกมังงะเป็นของตนเอง แต่ล้มเหลว ทำให้ คาเอะ ผู้มีพรสวรรค์ไม่กล้าที่จะท้าทายตัวเองอีกต่อไป ในขณะที่เธอเองก็โหยหาการยอมรับจากสังคม แต่เธอกลับแสดงออกได้เพียงแค่การย้อมผมสีแปลก ๆ แต่งตัวฉูดฉาดโดดเด่นแบบไม่ลงตัว มีนิสัยไม่ชอบเก็บกวาดที่อยู่อาศัย แสดงให้เห็นว่าเธอพยายามเรียกร้องความสนใจจากสังคม แต่ไม่สนใจสถานที่ของตนเอง The Fab Five จะเข้ามาช่วยให้ คาเอะ เกิดการยอมรับตนเองจากภายในเพื่อพร้อมรับการยอมรับจากสังคม  ตอนที่ 4 มาโกโตะมาโกโตะ ผู้กำกับรายการวิทยุ ชอบเก็บตัวและกลัวสังคม ปมจากการโดนแกล้งสมัยเด็กทำให้เขาไม่มีเพื่อน และไม่ชอบทำตัวเด่น เขามักจะพยายามซ่อนตัวจากสังคม แต่ปัญหาคือเขาก็ทำตัวเช่นนั้นกับชีวิตแต่งงานด้วยเช่นกัน เขาจึงตั้งใจปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้กลายเป็นสามีที่ดีขึ้นได้อีกเพื่อความสุขของผู้หญิงคนสำคัญในชีวิตเขา  season พิเศษนี้มีเพียง 4 ตอน แต่รับรองคุณภาพ ความประทับใจในทุก ๆ ตอน สำหรับ Queer Eye: We’re in Japan เราให้คะแนน 10/10 ไปเลยค่ะ เพราะปมปัญหาที่เลือกมาในแต่ละตอนนั้น เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับชีวิตของผู้คนยุคนี้มาก ๆ ดูแล้วปรับใช้กับตัวเองได้ในหลายมิติ สำหรับเราบอกเลยว่า “น้ำตาซึม” ทุกตอน แล้วด้วยความที่คนญี่ปุ่นมัก คิด พูด ทำ ในแบบที่มีปรัชญาซ่อนอยู่เสมอ ทำให้ season นี้เนื้อหามีความลึกซึ้งเหมือนที่เราเคยได้ดูในหนังหรือการ์ตูนญี่ปุ่นยังไงอย่างงั้นเลยค่ะ เพื่อน ๆ สามารถติดตาม Queer Eye: We’re in Japan ได้แล้ววันนี้ ทาง NETFLIX นะคะ เครดิตรูปภาพ: NETFLIX

Meta-Dating ออกเดตบนจักรวาล Metaverse
อ่าน

Meta-Dating ออกเดตบนจักรวาล Metaverse

Tech By True Digital ในเดือนแห่งความรัก ยังคงอยู่กับเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และการออกเดตในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปไกล โดยในตอนที่แล้ว ได้เล่าถึงเทคโนโลยี AI ที่เข้ามามีส่วนช่วยการหาคู่ออนไลน์หรือ Online Dating ไปแล้ว อ่านได้ที่นี่ รักยุคใหม่ เทคโนโลยีช่วยอะไรบ้าง ในตอนนี้ จะพาไปทำความรู้จักการออกเดตแบบล้ำ ๆ บนโลกเสมือน เมื่อจักรวาลรักได้ถึงคราวบรรจบจักรวาล Metaverse ขึ้นจริงแล้ว เมื่อการแชทและวิดีโอคอล อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ในยุคที่การออกเดตแบบเจอกันตัวเป็น ๆ อาจเป็นเรื่องยาก ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม การใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่คนเริ่มคุ้นชินกับการพบปะกันบนโลกออนไลน์มากกว่าตัวจริง ประกอบกับความต้องการลองออกเดตในรูปแบบใหม่ ๆ ที่เทคโนโลยีเอื้ออำนวยให้ทำได้ เมื่อห้องทำงานเสมือนจริงเกิดขึ้นได้ คอนเสิร์ตเสมือนจริงก็มีแล้ว เราจึงได้เห็นการออกเดตยุคใหม่บนโลกเสมือน Metaverse หรือ Meta-Dating ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ว่าผู้ใช้งานจะอยู่ที่ไหน เวลาใด ก็สามารถเชื่อมโลกแห่งความเป็นจริง ให้สามารถออกไปเจอเพื่อน คู่เดต หรือคนรักได้ในโลกเสมือน มีปฏิสัมพันธ์กันโดยใช้ร่างอวตารของเรา ซึ่งมี บริษัท Online Dating ทยอยเปิดให้บริการ และมีผู้เข้าไปใช้งานการออกเดตบนโลกเสมือนนี้แล้ว อาทิ Kippo แอปพลิเคชันหาคู่เจาะกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนปี 2019 ที่ผ่านมา แต่มีอัตราการเติบโตของผู้ใช้งานแอปแบบก้าวกระโดดด้วยจำนวนผู้ใช้งานประมาณ 180,000 รายต่อเดือน และผู้ใช้งานประมาณ 30% ของแอปนี้เข้ามาใช้งานเพื่อหาเพื่อนใหม่ ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงเมื่อเทียบกับแอปหาคู่อื่น ๆ ในตลาด ล่าสุด Kippo ก็พัฒนาเวอร์ชันสำหรับการออกเดตแบบ Metaverse ในเวอร์ชัน 2.0 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม เนื่องจากมีฐานผู้ใช้งานอย่างเกมเมอร์ที่เข้าใจแนวคิดการใช้ชีวิตบนโลกเสมือนอยู่แล้ว โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างอวตารของตนเองเพื่อออกเดตและมีปฏิสัมพันธ์กับคู่เดตของตนเองบนพื้นที่เสมือนจริงที่ถูกออกแบบมาเพื่อการออกเดตสนุก ๆ เช่น สวนสนุกเสมือนจริง ที่สามารถเล่นเกมไปด้วยกันได้ระหว่างการออกเดตด้วย ---Kippo version 2.0 รองรับการออกเดตบน Metaverse--- ที่มา: https://venturebeat.com/ Kippo มองว่าสำหรับเหล่าเกมเมอร์แล้ว การออกเดตบนโลกเสมือนเป็นที่เข้าใจและมีพัฒนาการมาก่อนจะมีคำว่า Metaverse เสียอีก ซึ่งทางเลือกนี้เป็นที่ถูกใจเกมเมอร์ที่ค่อนข้างเก็บตัวและอาจไม่ถนัดในการออกเดตแบบเจอตัวกันเป็น ๆ เท่าใดนัก แต่นี่คือแพลตฟอร์มสำคัญที่จะทำให้เหล่าเกมเมอร์มีโอกาสได้เจอคู่ของตนเองผ่านความชอบที่คล้ายคลึงกัน โดย Kippo รายงานว่า 93% ของผู้ใช้งานมีการออกเดตเสมือนจริงและเล่นเกมไปด้วยระหว่างออกเดตก่อนที่จะตัดสินใจออกเดตแบบออฟไลน์ โดยการแมตช์คู่ของ Kippo เวอร์ชัน 2.0 นี้ จะสร้างประสบการณ์ที่สนุกสนานและสมจริงแบบที่แอปหาคู่รายอื่นไม่สามารถมอบให้ได้ และการแมตช์จะแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิมด้วยอัลกอริธึมและระบบ AI ที่อัปเกรดขึ้น Planet Theta แอปหาคู่น้องใหม่ล่าสุดภายใต้บริษัท FireFlare ที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาแอป โดยมีแผนจะเปิดตัวในต้นปี 2022 นี้ ใช้เทคโนโลยี VR เป็นพื้นฐานของแอป โดยมีจุดขายสำคัญคือ การออกเดตบน Metaverse ซึ่งผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าสถานที่นัดพบ เช่น บาร์ ร้านอาหาร หรือสวนสาธารณะ ระหว่างการออกเดตแบบเสมือนจริง และสามารถพบปะ พูดคุย และโต้ตอบกันได้ เพียงสวมอุปกรณ์ VR เพื่อสร้างประสบการณ์แบบพหุสัมผัส เช่น ได้ยินเสียงพูดที่โต้ตอบกันได้ หรือการเห็นลักษณะทางกายภาพของคู่เดตในรูปแบบอวตารที่มาเป็นขนาดทั้งตัว ใกล้เคียงรูปลักษณ์จริง ๆ ของผู้ใช้งาน สามารถรับรู้ภาษากาย การนั่ง ยืน ระหว่างการออกเดต ที่บ่งบอกความคิด ความรู้สึกของคู่เดต ณ ช่วงเวลานั้น เหมือนได้ไปออกเดตจริง ๆ --- Aarons Bar บนโลก Metaverse ของ Planet Theta --- ที่มา: https://www.planet-theta.com/ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เป็นส่วนประกอบบนโลกเสมือนที่ผู้ใช้งานสามารถทำได้ เช่น การซื้อขายที่ดินหรือคอนโดหรูหราแบบ NFT เพื่อให้ร่างอวตารของเรามีที่อยู่อาศัยในโลกเสมือนนั้น ๆ --- คอนโดแบบ NFT บนโลก Metaverse ของ Planet Theta --- ที่มา: https://www.planet-theta.com/ Tinder ก็กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาให้ผู้ใช้งานสามารถออกเดตกันภายในแอปที่อยู่บนโลกเสมือนได้ เพราะจากการสำรวจผู้ใช้งาน TInder เมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า มากกว่า 40% ของผู้ใช้งาน ที่อยู่ในช่วงวัย Generation Z นั้น ชื่นชอบการออกเดตแบบดิจิทัล และจะยังคงออกเดตในลักษณะนี้ต่อไปแม้ว่าโลกจะกลับไปสู่ยุคที่การพบปะทำได้เป็นปกติแล้วเหมือนก่อนยุคโควิด-19 ระบาด แต่ก่อนจะให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์ออกเดตบน Metaverse นั้น Tinder เริ่มต้นจากการพัฒนาให้ตนเองเป็นแอปแบบ Immersive Dating Ecosystem หรือแอปที่มีระบบนิเวศการออกเดตเสมือนจริงก่อน ไม่ว่าจะเป็นการมี Virtual Avatar ที่ผู้ใช้งานสามารถสร้างอวตารเป็นของตนเอง หรือการเพิ่มฟีเจอร์ Virtual Event ให้ผู้ใช้งานจัดงานบนโลกเสมือน และ Virtual Goods ที่ผสมผสานโลกเสมือนกับโลกจริงเข้าด้วยกัน ด้วยการซื้อของให้คู่แมตช์ในโลกเสมือน และส่งของชิ้นนั้นไปถึงบ้านของคู่แมตช์ได้จริง --- คู่รักชาวอินเดียที่จัดงานแต่งบน Metaverse --- ที่มา: https://www.fortuneindia.com/ นอกจากนี้ อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้ Tinder ก้าวเข้าใกล้การพัฒนาเศรษฐกิจบนโลกเสมือน หรือ Virtual Economy คือการสร้างสภาพแวดล้อมในการซื้อขาย และระบบเศรษฐกิจพื้นฐาน ด้วยการปล่อย Tinder Coins ฟีเจอร์ทดลองบางประเทศในยุโรป เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ Tinder Coins เพื่อซื้อ Super Like และ Boost การมองเห็นเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการจับคู่ของตนเองได้ โดยในอนาคต Tinder หวังว่า TInder Coins นั้นจะพัฒนาไปถึงขั้นใช้ในการซื้อสินค้าต่าง ๆ ภายในแอป โดยสามารถซื้อของสำหรับสะสม หรือให้เป็นของขวัญกับคู่แมตช์ของตนเองได้ หรือเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับพฤติกรรมบางอย่างของผู้ใช้งาน เช่น การสนับสนุนให้สมาชิกตรวจสอบแอคเคาท์ของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ อัปเดตรูปโปรไฟล์ที่เป็นปัจจุบัน หรือการเพิ่มวิดีโอในแอคเคาท์ตนเองเพื่อยืนยันตัวตนที่แท้จริง เป็นต้น --- Tinder Coins --- ที่มา: https://www.tinderpressroom.com/ ในขณะเดียวกัน บริษัท Match Group ที่เป็นบริษัทแม่ของ Tinder ก็ได้เริ่มทดสอบแอปออกเดตบนโลกเสมือนที่ชื่อว่า Single Town ที่พัฒนาโดยบริษัท Hyperconnect สัญชาติเกาหลี ที่เพิ่งได้รับการควบรวมกิจการเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ให้ผู้ใช้งานออกเดตบนโลกเสมือนด้วยการสร้างอวตารของตนเองแล้วออกเดตบนพื้นที่ในโลกเสมือน เช่น ร้านอาหาร บาร์ และสามารถโต้ตอบกันโดยใช้เสียง (Audio) แบบเรียลไทม์ --- Single Town โดย SLIDE จาก Hyperconnect --- ที่มา: https://hyperconnect.com/ ไม่ว่าการออกเดตบนจักรวาลแห่งความรักจะเป็นไปในรูปแบบไหน จะอยู่บนโลกจริงหรือโลกเสมือน จะเป็นไปเพื่อการค้นหารักแท้ การสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้น การได้เจอเพื่อนใหม่ การได้ปฏิสัมพันธ์กับผู้คนที่มีความชอบเหมือน ๆ กัน หรือจะเพื่อลองใช้เทคโนโลยีสร้างประสบการณ์ทางสังคมบนโลกเสมือนเท่านั้นก็ตาม Tech By True Digital ขอส่งต่อความห่วงใยในการใช้เทคโนโลยีอย่างระมัดระวัง รู้เท่าทันในทุกความสัมพันธ์บนจักรวาลแห่งความรัก เพื่อให้เป็นความสัมพันธ์ที่อยู่บนพื้นฐานของความรัก ความหวังดี และความปลอดภัย ไม่ว่าจะอยู่ในโลกจริงหรือโลกเสมือนก็ตาม -------------------------- อ้างอิง: https://www.scmp.com/ https://venturebeat.com/ https://screenrant.com/ https://techcrunch.com/ https://www.tinderpressroom.com/

Sony Japan เปิดตัวโครงการรับบริจาคหุ่นยนต์สุนัข ERS-1000 Aibo เพื่อนำไปช่วยเหลือทางใจ
อ่าน

Sony Japan เปิดตัวโครงการรับบริจาคหุ่นยนต์สุนัข ERS-1000 Aibo เพื่อนำไปช่วยเหลือทางใจ

Sony Japan เปิดตัวโครงการ Aibo Foster Parent ที่รับบริจาค ซ่อมแซม และหาบ้านใหม่ให้หุ่นยนต์สุนัข ERS-1000 Aibo ที่ออกมากว่า 5 ปีแล้ว ในโครงการนี้ Sony จะทดสอบและซ่อมหุ่นยนต์ Aibo ที่ได้รับบริจาค ก่อนนำไปใช้สถาบันทางการแพทย์ บ้านพักคนชรา และองค์กรอื่น เพื่อให้นำไปช่วยส่งเสริมด้านจิตใจกับผู้คน Sony เผยว่ามีแผนจะเก็บค่าบริการจากองค์กรหรือบุคคลที่นำ Aibo ไปใช้ต่อ และชี้ว่าจะนำเงินที่ได้รับบริจาคบางส่วนบางช่วยรักษาและดูแลหุ่น Aibo ตัวอื่นต่อไป สำหรับหุ่น Aibo มีระบบตอบสนองต่อเสียงและการสัมผัส และมีกล้องบนจมูกที่ช่วยในการจดจำสมาชิกในครอบครัวด้วย ที่มา The Verge

หนังสือพิมพ์รักษ์โลกของ "JAPAN"
อ่าน

หนังสือพิมพ์รักษ์โลกของ "JAPAN"

      เชื่อหรือไม่!? หนังสือพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่นตอนนี้สามารถปลูกต้นไม้ได้ แล้วด้วยนวัตกรรมใหม่ของประเทศญี่ปุ่นโดยสำนักพิมพ์ ไนนิชิ ชินบุนชา ขอบคุณภาพจาก : https://pixabay.com/images/id-791440/ ทางสำนักพิมพ์ญี่ปุ่นรักษ์โลก ได้ผลิตหนังสือพิมพ์ " สีเขียว (Green) " ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของญี่ปุ่น ขณะที่เราอ่านหนังสือพิมพ์ทั่วไป เราก็ต้องทิ้งกองไว้กับกระดาษหรือหนังสือพิมกองเก่าจริงไหมล่ะคะ แต่หนังสือพิมสีเขียวนี้ เมื่อเราอ่านเสร็จแล้ว สามารถนำมาปลูกต้นไม้ได้อีกด้วยค่ะ ขอบคุณภาพจาก : https://pixabay.com/images/id-791231/ ส่วนเรื่องแนวคิดการพิมพ์หนังสือพิมพ์รักษ์โลกนี้ มาจากแนวคิด “หนังสือพิมพ์รักษ์โลก” นี้ได้เกิดขึ้นโดย Dentsu Inc. หนึ่งในเอเจนซี่โฆษณาที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ร่วมมือกับ ไนนิชิ ชินบุนชา ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายใหญ่ของญี่ปุ่นค่ะ เพราะนอกจากจะลดปริมาณขยะแล้ว ยังปลูกต้นไม้เพิ่มออกซิเจนให้กับสภาพแวดล้อมในประเทศได้อีกด้วย  ขอบคุณภาพจาก : https://pixabay.com/images/id-1525665/ โดยวิธีการปลูกต้นไม้ด้วยหนังสือพิมพ์นะคะ คืออย่างแรกฉีกกระดาษเป็นชิ้นเล็ก ๆ  ก่อนแล้วนำกระดาษที่เราฉีกนั้นไปปลูกแทนเมล็กพันธุ์ และรดน้ำ ใช้เวลาการปลูกต้นไม้จากหนังสือพิมนั้น เหมือนกับเวลาปลูกต้นไม้ทั่วไป แต่ไม่ได้งอกออกมาเป็นหนังสือพิมพ์นะคะ จะงอกออกมาเป็นต้นไม้นี้แหละค่ะ!   ขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิงจาก : https://www.thairath.co.th/news/foreign/1644246 ขอบคุณภาพปกจาก : https://pixabay.com/images/id-791439/   ผู้เขียน : โต๊ะเขียนหนังสือ 

สรุปหนังสือพัฒนาตัวเอง (SELF HELP) ของ DR. WAYNE W. DYER
อ่าน

สรุปหนังสือพัฒนาตัวเอง (SELF HELP) ของ DR. WAYNE W. DYER

สรุปหนังสือพัฒนาตัวเอง (SELF HELP) ของ DR. WAYNE W. DYER | บทความโดย Pchalisa หนังสือ Self-help หมายถึง หนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถแก้ไขปัญหาส่วนตัวต่างๆ ในชีวิตได้เอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ การทำงาน การเงิน หรือแม้แต่การพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ซึ่งหนังสือประเภทนี้มักจะให้คำแนะนำ ข้อคิด หรือเทคนิคต่างๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันได้ค่ะ  และคุณผู้อ่านรู้ไหมคะว่า? หนังสือที่ชื่อว่า “10 SECRETS FOR SUCCESS AND INNER PEACE ที่เขียนโดย DR. WAYNE W. DYER นั้น หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมหลักการและแนวคิดที่เป็นประโยชน์ในการสร้างความสำเร็จและความสุขภายในใจ ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันค่ะ โดยผู้เขียนจะขอสรุปเป็นความรู้สั้นๆ ที่อ่านได้ภายในหนึ่งบทความ ส่วนจะมีเนื้อหาอะไรน่าสนใจบ้างนั้น อ่านต่อกันเลยดีกว่าค่ะ ดังนี้ 1. เชื่อมต่อกับจิตวิญญาณภายใน การค้นหาและเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณภายในเป็นรากฐานสำคัญของความสุขและความสำเร็จค่ะ โดยการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณภายใน เป็นแนวคิดที่มักปรากฏในศาสตร์ด้านการพัฒนาตนเองและจิตวิญญาณ หมายถึงการที่เราหันเข้ามาสำรวจและทำความเข้าใจส่วนลึกที่สุดของตัวเราเอง นั่นคือ จิตวิญญาณ หรือบางครั้งเรียกว่า "ตัวตนที่แท้จริง" หรือ "แก่นแท้" ของเรา 2. คิดบวก การฝึกคิดในแง่ดีจะดึงดูดพลังงานบวกเข้ามาในชีวิตและช่วยให้เราเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ หมายความว่า เมื่อเราฝึกฝนตัวเองให้คิดในแง่ดี มองโลกในแง่บวก สิ่งดีๆ และโอกาสต่างๆ ก็จะเข้ามาในชีวิตเรามากขึ้น นอกจากนี้ การคิดบวกยังช่วยให้เรามีพลังใจในการเผชิญหน้าและเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย 3. ปล่อยวางอดีต การยึดติดกับอดีตจะทำให้เราไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ การปล่อยวางอดีตจะเปิดโอกาสให้เราเริ่มต้นใหม่ เมื่อเรายังคงยึดติดกับเหตุการณ์ในอดีต เช่น ความผิดพลาด ความเจ็บปวด หรือความเสียใจ เราจะรู้สึกเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ ไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ความคิดถึงอดีตจะรบกวนจิตใจ ทำให้เราขาดความสุขและโอกาสดีๆ ในปัจจุบันค่ะ 4. ให้อภัย การให้อภัยทั้งตนเองและผู้อื่นจะช่วยปลดปล่อยความทุกข์และสร้างความสงบภายใน เมื่อเราสามารถให้อภัยทั้งตัวเองในสิ่งที่เราเคยทำผิดพลาด และให้อภัยผู้อื่นที่เคยทำร้ายเรา เราจะสามารถปล่อยวางความโกรธ ความแค้น ความเสียใจ และความผิดหวังที่ฝังอยู่ในใจได้ ทำให้จิตใจของเราเบาลง และเกิดความสงบสุขภายในขึ้นมาค่ะ 5. รักตัวเอง การรักตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การดูแลเอาใจใส่ร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของตนเองจะทำให้เรามีความสุขและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น การรักตัวเองเป็นเหมือนรากฐานที่แข็งแรงของต้นไม้ เมื่อรากแข็งแรง ต้นไม้ก็จะเติบโตงอกงามได้ดีเช่นกัน การรักตัวเองก็เช่นกัน เมื่อเรารักตัวเอง เราก็จะมีความสุขและพลังงานในการดำเนินชีวิต การดูแลตัวเองทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ เมื่อเรารักตัวเอง เราก็จะรู้จักคุณค่าของตัวเอง และไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเรา เราจึงสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้ 6. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจและมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายระยะสั้นหรือระยะยาว เป้าหมายนั้นจะทำหน้าที่เหมือนเป็น "แผนที่" ที่บอกทิศทางให้เราได้รู้ว่าเราต้องการไปไหน และจะทำให้เรามีแรงผลักดันในการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งค่ะ 7. สร้างความสัมพันธ์ที่ดี การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างจะช่วยให้เรามีความสุขและได้รับการสนับสนุน การที่เราสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่อยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน พี่น้อง หรือเพื่อนร่วมงาน จะส่งผลดีต่อชีวิตของเราอย่างมาก ทำให้เรารู้สึกมีความสุข มีความอบอุ่นใจ และได้รับกำลังใจจากคนรอบข้าง 8. ให้และรับ การให้และการรับเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิต การให้จะทำให้เรารู้สึกดีและการรับจะทำให้เรารู้สึกขอบคุณ การให้ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ เวลา หรือความช่วยเหลือ จะทำให้เรารู้สึกดี มีความสุขที่ได้แบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น การให้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ทำให้เรามีเพื่อนที่ดี มีคนรัก และมีสังคมที่อบอุ่น  การให้จะช่วยให้เราเติบโตในด้านจิตใจ ทำให้เรามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น การรับสิ่งที่ผู้อื่นให้มา จะทำให้เรารู้สึกขอบคุณ และตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งที่ได้รับ การรับด้วยความเต็มใจและแสดงความขอบคุณ จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น การรับสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ประสบการณ์ หรือโอกาส จะช่วยให้เราเติบโตและพัฒนาตนเอง การให้และการรับเป็นเหมือนเหรียญสองด้าน ที่ต้องมีความสมดุลกัน หากเรามัวแต่ให้โดยไม่รับบ้าง เราอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้า หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ ในทางกลับกัน หากเรามัวแต่รับโดยไม่ให้บ้าง เราอาจจะรู้สึกผิด หรือรู้สึกว่าเป็นการเอาเปรียบผู้อื่น การสร้างความสมดุลระหว่างการให้และการรับ จะทำให้เรามีความสุขและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น 9. เรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดชีวิตจะช่วยให้เราพัฒนาตนเองและมีความสุขกับชีวิต การที่เราไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะใหม่ ความรู้ใหม่ หรือแม้แต่ประสบการณ์ใหม่ๆ จะช่วยให้เราเติบโตในทุกๆ ด้าน และนำมาซึ่งความสุขในการใช้ชีวิต การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด เพราะมันจะช่วยให้เราเติบโตทั้งในด้านส่วนตัวและด้านอาชีพ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสุขให้กับชีวิตของเราอีกด้วย 10. ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ การใช้ชีวิตอย่างเต็มที่หมายถึงการทำในสิ่งที่เรารักและมีความสุข การใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ คือการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุดในทุกๆ วัน โดยคำนึงถึงหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การทำตามความฝัน: การกล้าที่จะทำในสิ่งที่เราใฝ่ฝันและมีความสุข การออกนอกกรอบและลองทำสิ่งใหม่ๆ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี: การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างมีคุณภาพ การสร้างความผูกพันและความรัก การดูแลสุขภาพ: ทั้งร่างกายและจิตใจ การออกกำลังกาย การกินอาหารที่มีประโยชน์ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ การเรียนรู้ตลอดชีวิต: การเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ การพัฒนาทักษะและความรู้ของตนเอง การให้: การแบ่งปันสิ่งดีๆ กับผู้อื่น การทำความดีเพื่อสังคม การใช้ชีวิตในปัจจุบัน: การไม่ยึดติดกับอดีต และไม่กังวลกับอนาคตมากเกินไป 11. ฝึกสมาธิ การฝึกสมาธิจะช่วยให้จิตใจสงบและมีความสุข การฝึกสมาธิเป็นเหมือนการฝึกจิตใจให้สงบและมั่นคง นำไปสู่ความเข้าใจตัวเองและโลกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เรารู้สึกมีความสุขและเป็นสุขได้อย่างแท้จริง การฝึกสมาธิช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ลดความเครียด ความวิตกกังวล และอารมณ์ด้านลบต่างๆ การฝึกสมาธิช่วยให้เราเข้าใจธรรมชาติของจิตใจและอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น การฝึกสมาธิช่วยให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีสติและไม่ยึดติด 12. ขอบคุณในสิ่งที่ตนมี การรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่ตนมีจะช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น เมื่อเราหันมาให้ความสำคัญและรู้สึกขอบคุณในสิ่งดีๆ ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพที่ดี ครอบครัว เพื่อนฝูง งานที่ทำ หรือแม้กระทั่งสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารการกิน ที่อยู่อาศัย เราจะรู้สึกพึงพอใจและมีความสุขมากขึ้น 13. สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น การสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นจะทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า โดยประโยคนี้เป็นประโยคที่สื่อถึงความเชื่อมโยงระหว่างการให้และการได้รับ เมื่อเราสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นได้ หมายความว่าเราได้แบ่งปันสิ่งดีๆ ความรู้ ประสบการณ์ หรือแม้แต่แรงผลักดันให้กับคนอื่นๆ ซึ่งการกระทำนี้เองที่ทำให้เรารู้สึกมีคุณค่าในตัวเองมากขึ้นค่ะ 14. ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ การยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของตนเองและผู้อื่นจะช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น คำพูดนี้สื่อถึงความจริงที่ว่า มนุษย์ทุกคนล้วนไม่สมบูรณ์แบบทั้งสิ้น การพยายามที่จะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบตลอดเวลา อาจนำไปสู่ความเครียดและความทุกข์ใจได้มากกว่า เมื่อเราหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น หรือพยายามเป็นไปตามมาตรฐานที่สูงเกินจริง ความเครียดที่เกิดจากความไม่สมบูรณ์แบบก็จะลดลง การยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของเราและของผู้อื่น ทำให้เรารู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นค่ะ และการยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบของผู้อื่น ทำให้เรามีความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดี 15. เชื่อมต่อกับธรรมชาติ การใช้เวลาอยู่ในธรรมชาติจะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีพลังงาน การได้สัมผัสกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า การนั่งสมาธิในสวน หรือแม้แต่การมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นต้นไม้ใบหญ้า ก็สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งกายและใจของเราได้อย่างน่าทึ่งค่ะ ธรรมชาติเป็นเหมือนยาบรรเทาความเครียดที่ทรงพลัง เสียงของธรรมชาติ สีเขียวของต้นไม้ และอากาศบริสุทธิ์ ช่วยให้ระบบประสาทส่วนกลางผ่อนคลาย ลดการหลั่งของฮอร์โมนความเครียด การอยู่ในธรรมชาติช่วยให้เราสามารถโฟกัสกับปัจจุบันขณะได้ดีขึ้น ลดความฟุ้งซ่าน และเพิ่มสมาธิในการทำงาน การใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติเป็นโอกาสที่ดีในการสำรวจจิตใจและความรู้สึกของตัวเอง ธรรมชาติเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจที่ไม่มีวันหมดสิ้น ความสวยงามของธรรมชาติสามารถกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ การเชื่อมต่อกับธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพทั้งกายและใจ การใช้เวลาในธรรมชาติสม่ำเสมอ จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น และมีชีวิตที่สมดุลมากขึ้นค่ะ ที่โดยสรุปแล้วหนังสือเล่มนี้มุ่งเน้นให้คุณผู้อ่านตระหนักถึงพลังภายในของตนเอง และให้เครื่องมือในการสร้างชีวิตที่สมบูรณ์แบบทั้งทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการคิดบวก การรักตัวเอง การให้อภัย และการเชื่อมต่อกับสิ่งรอบข้างค่ะ โดยผู้เขียนเองก็ได้นำข้อมูลที่เป็นความรู้ดีๆ ในนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบความสงบใจ ไม่ชอบสร้างปัญหาหรือความเดือดร้อนใจให้คนอื่นค่ะ และชอบจัดการตัวเองมากกว่าคนอื่น เพราะผู้เขียนมองว่าเรามีหน้าที่สร้างความสำเร็จและความสุขสงบใจ ที่ควรเริ่มจากตัวเราเองค่ะ และแนวทางก็เป็นไปตามเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ค่ะ ยังไงนั้นคุณผู้อ่านลองนำไปปรับใช้กันค่ะ ซึ่งผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปกและภาพประกอบเนื้อหาโดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา : พยาบาลศาสตรบัณฑิต (B.N.S.) จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม); M.P.H. (Environmental Health) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ : สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล  บทความอื่นที่น่าสนใจโดย Pchalisa  https://news.trueid.net/detail/DL5Vg6P3wDzy   https://news.trueid.net/detail/pR57xNWwQpd8   https://news.trueid.net/detail/d8mb4bBx6zNj เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

รีวิว Japan D Playhouse ร้านอาหารญี่ปุ่นเอาใจสายอนิเมะ สุไหงโกลก นราธิวาส มีคลิป #foody
อ่าน

รีวิว Japan D Playhouse ร้านอาหารญี่ปุ่นเอาใจสายอนิเมะ สุไหงโกลก นราธิวาส มีคลิป #foody

おはよう! (โอฮาโยะ!) วันนี้เรามาสวัสดีเป็นภาษาญี่ปุ่นกันค่ะ เพราะว่าร้านที่เราจะไปกันวันนี้ก็คือออ ร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองสุไหงโกลก นราธิวาส “Japan D Playhouse” นั้นเอง ร้านนี้เป็นร้านที่น้องสาวรีเควสเพราะน้องชอบอนิเมะ สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบอาหารญี่ปุ่นหรือชอบดูอนิเมะ ก็อยากแนะนำให้ลองไปกันค่ะ เราเองก็ชอบดูชินจังจอมแก่นมากก ฮ่า เป็นการเติมเต็มความชอบไปด้วยเลย ว่าแล้วเราไปดูกันเลยว่าที่ร้านมีเมนูอะไรบ้าง และภายในร้านตกแต่งอย่างไร กดคลิปแล้วไปดูกันเลยยย!!รีวิว “Japan D Playhouse” ร้านอาหารญี่ปุ่น🇯🇵บรรยากาศภายในร้านและการตกแต่งอาหารและเครื่องดื่มสำหรับมื้อนี้พวกเราก็หมดไป 404 บาทค่ะ อาหารรสชาติอร่อย ให้เยอะ อิ่มและได้เติมเต็มความชอบอีกด้วย อีกอย่างคือไม่คิดว่าจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นดีๆ แบบนี้อยู่ใกล้บ้าน😳 และทางร้านก็ยังใช้วัตถุดิบฮาลาลอีกด้วย เพื่อนๆ ลองไปชิมกันดูได้นะคะ สำหรับวันนี้ไปแล้วค่ะ สวัสดีค่าา ซาโยนาระ!พิกัดร้าน: คลิกดูแมปตรงนี้… ขอบคุณเพลงประกอบ :Sweet Love โดย DayFoxStaycation โดย FASSounds ภาพหน้าปกโดย : เจ้าหญิงน้ำแข็ง หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !

เจมส์จิ ชวนเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ใน Tabi Japan With James Jirayu
อ่าน

เจมส์จิ ชวนเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ใน Tabi Japan With James Jirayu

เตรียมพบกับบทบาทพิธีกรครั้งแรกของหนุ่ม เจมส์ จิรายุ กับรายการท่องเที่ยวญี่ปุ่นน้องใหม่ Tabi Japan With James Jirayu ประเดิมตอนแรกด้วยการพาไปสัมผัสการท่องเที่ยวที่แรก จังหวัดอาโอโมริ สัมผัส 3 เรื่องหลักในการเดินทาง อาหารขึ้นชื่อ,ทิวทัศน์ที่สวยงาม และ ออนเซ็น โดยตอนแรกของรายการเริ่มต้นด้วยช่วงเช้าพาไปเดินตลาดเพื่อค้นหาสุดยอดอาหารขึ้นชื่อของท้องถิ่น พร้อมกับโพสภาพถ่ายและทวิตถามคำถามระหว่างการเดินทางผ่านทวิตเตอร์ @Jirayu_jj ส่วนคำตอบจากแฟนๆ จะเป็นอย่างไรกันบ้างติดชมได้ในรายการ หลังจากนั้นเดินทางต่อไปชมทิวทัศน์ที่สวยงามที่อุทยานแห่งชาติ โออิราเสะ ชมการถ่ายภาพใบไม้เปลี่ยนสีและน้ำตกจากหนุ่มเจมส์ ช่วงเย็นกับการเดินทางไปยังโรงแรมเรียวคังที่มีประวัตินานกว่า 100 ปี แช่ออนเซ็นผ่อนคลายร่างกายที่หนาวเย็นภายใต้อุณหภูมิติดลบ พร้อมสัมภาษณ์ความรู้สึกจากประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตที่ได้แช่ออนเซ็น นอกจากนี้ช่วงท้ายของรายการแฟนๆ ยังสามารถถามคำถามผ่านทางทวิตเตอร์ของหนุ่มเจมส์ได้อีกด้วย ติดตามชมความสนุกกับการเดินทางของหนุ่มเจมส์ที่คุณอยากจะลองไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง ในรายการ Tabi Japan With James Jirayu ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.00-17.30 น. ทางช่อง 28 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2559 ชมทีวีออนไลน์แบบสดๆ ได้ที่นี่ ช่อง 3 ช่อง 3 Family ช่อง 3 SD ช่อง 3 HD

backpacking in Japan : Minumatsusenbori Park @Saitama
อ่าน

backpacking in Japan : Minumatsusenbori Park @Saitama

Backpacking in Japan : Minumatsusenbori Park @Saitama             ทริป 1 วันในญี่ปุ่นครั้งนี้ เราวางแพลนไปเที่ยวที่ Toy Planet Higashi Urawa store ซึ่งเป็นร้านขายของเล่น ของสะสมมือสองในจังหวัดไซตามะ โดยนั่งรถไฟจากโตเกียวมาลงที่สถานี Higashi Urawa แล้วเดินเท้าต่อไปอีก 850 เมตรก็จะถึงร้าน เราเดินตาม Google map มาเรื่อย ๆ ประมาณ 400 เมตร มองไปทางซ้ายเห็นสวนสาธารณะ เสียดายที่ลืมถ่ายป้ายทางเข้าสวนด้านหน้าของ Minumatsusenbori Park กะว่าจะพักเหนื่อยไม่นาน ลองเดินเข้าไปดูนิดหนึ่งดีกว่าเผื่อเจอดอกไม้สวย ๆ  เดินเข้ามาเรื่อย ๆ  โอ้โห สวนสาธารณะนี่ไม่ธรรมดาเหมือนอย่างที่คิด ยิ่งเดินเข้ามายิ่งเจอความเขียวขจีของป่าไผ่ ธรรมชาติสุด ๆ อากาศเย็น สดชื่นมาก สีเขียวของต้นไผ่ตัดกับทางเดินที่เป็นไม้ สวยงามมาก มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก เพลินกันเลยที่นี้ มีทางเดินแยกต่อไปอีก เราเดินถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ จนสุดทางเดิน เห็นวิวแบบนี้เลย โอ้ย สวยจัง ทำไมฉันพลาดที่แบบนี้ไปได้ยังไง ถ้าไม่เห็นคงไม่ได้แวะเข้ามา บรรยากาศดี เงียบสงบ ได้ยินเสียงนกร้อง สวนสาธารณะนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง อยู่ในจังหวัดไซตามะ (Saitama) มีคลองน้ำเล็ก ๆ อยู่ด้านข้าง เป็นสวนป่าไผ่ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่พอสมควร มีลานโล่งให้เดินชมธรรมชาติ ต้นไม้ ต้นหญ้า กันเพลิน ๆ เลย มองไปทางไหนเขียวชอุ่มไปหมด โชคดีที่มีคนเดินน้อยมาก ป่าไผ่นี้เป็นของเรา เรานั่งพักกันตรงนี้เลย หมดเวลาไปเกือบชั่วโมง อากาศน่านอนมาก           ได้เวลาเดินทางต่อไปที่ Toy Planet Higashi Urawa store แวะหาของเล่น ของสะสมก่อนนะ ถ้าเพื่อน ๆ เดินทางผ่านมาแถวนี้ อย่าลืมแวะมาเช็คอินถ่ายรูปกับป่าไผ่สวย ๆ ที่ Minumatsusenbori Park กันนะจ้ะ ไม่ต้องไปไกลถึงเกียวโตก็ได้ ความสวยความเขียวขจีน่าจะใกล้ ๆ กัน Bye Bye http://saipo.net/11109006.html #ToyPlanet    #ของเล่นในญี่ปุ่น   #ของเล่นมือสองญี่ปุ่น   #ToyInJapan   #คิดถึงญี่ปุ่น   #Japan ภาพหน้าปกโดย https://www.canva.com/ ภาพถ่ายทั้งหมดโดย : นักเขียน

BYD Seal นำทัพ! ปักธงแบรนด์รถ EV จีนแรกบุกญี่ปุ่นที่งาน Japan Mobility Show 2023
อ่าน

BYD Seal นำทัพ! ปักธงแบรนด์รถ EV จีนแรกบุกญี่ปุ่นที่งาน Japan Mobility Show 2023

กลับมาอีกครั้งกับงานมอเตอร์โชว์ของประเทศญี่ปุ่น ที่ห่างหายไปกว่า 3 ปีจากสถานการณ์โควิด รอบนี้นอกจากจะเปลี่ยนชื่อไปเป็น Japan Mobility Show 2023 แล้ว ยังเปิดตัวแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าหน้าใหม่อย่าง BYD ที่ร้อนแรงจนเข้าไปโชว์ในครั้งนี้ด้วย งานนี้เราได้รับเกียรติจากบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจำหน่าย BYD ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พาบินลัดฟ้าไปเยือนเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าของญี่ปุ่นว่าไปถึงไหนกันแล้ว ผู้บริหารของ BYD ประเทศญี่ปุ่นและ CEO ของ BYD BYD Atto 3 ในงาน Japan Mobility Show 2023 ทาง BYD เองก็ขนขบวนรถยนต์ไฟฟ้าประเดิมตลาดรถยนต์ของประเทศญี่ปุ่นในงานนี้ เท่าที่ทราบ BYD เป็นแบรนด์สัญชาติจีนแบรนด์แรกที่บุกตลาดญี่ปุ่นจริงจัง ด้วยการเปิดตัวด้วยไฮไลต์อย่าง BYD Seal ซีดานไฟฟ้ารุ่นล่าสุด ที่จะเข้ามาทำการตลาดในญี่ปุ่นเต็มตัวปี 2024 รวมถึงน้องโลมาไฟฟ้า BYD Dolphin และ BYD Atto 3 ที่ประเดิมตลาดในประเทศไทยได้อย่างสวยงามก็ตามมาลงตลาดญี่ปุ่นเช่นกัน BYD Seal Denza D9 อีกทั้งยังมี Denza D9 รถตู้พลังงานไฟฟ้าที่ BYD ได้พัฒนาร่วมกับ Mercedes-Benz และเคยมาโชว์ตัวในงาน Motor Show 2023 ของบ้านเรามาแล้ว ปิดท้ายด้วยแบรนด์ Yangwang ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์ภายใต้ BYD รอบนี้พา Yangwang U8 เอสยูวี 7 ที่นั่งไฟฟ้ามาให้ชมกันด้วย เราเคยเห็นรถคันนี้มาแล้วที่งาน Shanghai Auto Show 2023 แม้สปอร์ตไลต์ในครั้งนั้นจะส่องไปที่ Yangwang U9 ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 1,100 แรงม้า ที่กระโดดได้ก็ตาม Yangwang U8 นอกจาก BYD แล้ว เรายังได้ชมเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้เห็นว่าญี่ปุ่นเองก็จริงจังกับเรื่องนี้ไม่แพ้กัน เสียดายที่หลายค่ายโชว์แค่รถต้นแบบที่ยังไม่ได้เข้าสู่การผลิตจริงจัง แต่ก็ทดแทนด้วยการโปรดักต์ที่พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ทางด้านไลฟ์สไตล์มากกว่ายนตรกรรม เดี๋ยวแบไต๋จะเก็บไฮไลต์ในงาน Japan Mobility Show 2023 มาฝากกันอีกที รับรองว่าพี่ยุ่นเราไม่แพ้ใครเหมือนกันะ

Review ร้านอาหารไทยใน Japan@Ueno
อ่าน

Review ร้านอาหารไทยใน Japan@Ueno

      รีวิวอาหารไทยย่านUeno@Tokyo                      ร้าน A•Haan•Thai🇹🇭                 ย่านอูเอโนะ ถือว่าเป็นย่านแหล่งที่พักอันดับแรกๆที่ทุกคนไปโตเกียว คงจะต้องนึกถึง เพราะว่าเป็นแหล่งที่ครบครัน     ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของการเดินทางที่สะดวกสบาย เชื่อมต่อไปได้อีกหลายเส้นทาง อีกทั้งแหล่งที่กินที่เที่ยวก็ไม่เป็นรองใคร   ครั้งนี้เลือกที่พักใกล้ตลาด Ameyoko ซึ่งเป็นแหล่งที่รวบรวมร้านอาหารที่หลากหลาย ร้านนั่งชิลล์ ร้านขายของสด ตู้เกมส์หรือกาชาปองให้เราได้เดินเลือกดู   และพอกินอาหารญี่ปุ่นมาหลายมื้อ เราเริ่มตามหาร้านอาหารไทยที่ขึ้นชื่อในย่าน จนได้ไปเจอกับร้าน A•Haan•Thai🇹🇭 @Ueno ร้านตั้งอยู่ในตึกใกล้ตลาด Ameyoko market ภายในร้านตกแต่งสไตล์แบบไทยแท้ๆเข้าไปแล้วเหมือนอยู่ร้านที่ไทยเลย พี่เจ้าของร้านน่ารักมาก บริการดีและเป็นกันเอง.                                          พอได้เมนูมา เราช่วยกันเลือกว่ามื้อนี่จะทานอะไรกันบ้างและให้พี่พนักงานแนะนำว่าควรสั่งอะไรบ้าง                                                        เมนูที่สั่งมาก็จะมีประมาณนี้นะคะต้มเล้งแซ่บ (Recommend) พี่พนักงานยกมาเสิร์ฟ ไม่คิดว่าจะเป็นต้มเล้งแซ่บปกติ นึกว่าเป็นภูเขาไฟเล้งแซ่บ ให้เยอะมากกกก ที่ให้มาเป็นกระดูกเล้งชิ้นใหญ่เนื้อเยอะและเคี่ยวมาจนเปื่อยนุ่ม น้ำซุปถึงเครื่องมากเหมือนไม่ได้นั่งกินอยู่ที่ญี่ปุ่นเหมือนนั่งกินอยู่ร้านดังที่ไทย หอมมะนาว หอมเครื่อง กินพร้อมน้ำซุปคือฟินนที่สุด มาร้านนี้ต้องห้ามลืมสั่ง ถ้าไม่ได้ลองกินเมนูนี้คงเสียใจให้เลย 10 10 10 ห้ามพลาดจ้า!                                                                  ส้มตำไทย ส้มตำไทยรสชาดจัดจ้านครบองค์ประกอบ สามรส วัตถุดิบดี ตักน้ำส้มตำมาราดบนข้าวเหนียว รสชาติดีงาม ถึงจะเป็นส้มตำไทยแต่ก็นัวได้.ไก่ย่าง ไก่เนื้อนุ่มหมักมาอย่างดี รสชาติออกหวาน เป็นไก่ย่างในอุดมคติ เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว รสแซ่บ ทานคู่กับส้มตำและข้าวเหนียวเข้ากันดีที่สุด ทานแป๊บเดียวคือหมด.น้ำตกหมู คอหมูย่าง ย่างมาหอมๆ มีส่วนที่ติดมัน คลุกเคล้าด้วยเครื่องลาบ รสชาติกลาง ไม่เผ็ดมาก กลมกล่อม.และมาถึงและมาถึงเมนูปิดท้ายของเราวันนี้ก็คือตำยำแซลมอน   แซลมอนสดคุกเคล้าในน้ำยำรสชาติจัดจ้าน น้ำปลาร้ารสกลมกล่อมทานง่าย กลิ่นไม่แรง แถมทางร้านยังมีไข่กุ้งเสริมมาให้พร้อมด้วย เอาน้ำยำไปราดบนไข่กุ้งคือฟิน แตกกุ๊บกั๊บในปาก ลงตัวมากค่ะ เมนูนี้มาแล้วต้องลองห้ามพลาดนะคะ.      จบมื้อนี้ทำให้หายอยากของแซ่บไปได้เลย พี่ๆท่านใดที่ผ่านมาเที่ยวแถวย่าน Ueno อย่าลืมแวะมาลองทานกันนะคะ.                                             รีวิวนี้เป็นเพียงการชิมรสชาติของผู้รีวิวเพียงผู้เดียว หากมีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยค่ะ                                             Locationร้านตั้งอยู่ 4-4-3 Ueno Taito-ku 4th floor                                                                                                             Hatoya 1 building.   +813-6240-1963-                                                                 เครดิตภาพ : Skyfah (ครีเอเตอร์) หิวใช่ไหม อยากหาของกินอร่อย ๆ ใช่หรือเปล่า ส่องร้านเด็ดร้านดังได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !

3 สุดยอด End Mill of Japan
อ่าน

3 สุดยอด End Mill of Japan

3 เจ้าตลาด End mill สัญชาติญี่ปุ่น ในงานแม่พิมพ์ประเทศไทยEnd mill คืออะไรEnd mill คืออุปกรณ์ใช้ในการตัดเฉือนขึ้นรูปชิ้นงานให้ได้ตามความต้องการ มีขนาดและรุปร่างแตกต่างกันออกไปตามการใช้งาน End mail มีหลากหลายชนิดทั่วไปที่มักจะใช้อยู่ในงานแม่พิมพ์มีดังนี้ CBN (Cubic Boron Nitride), Diamond, Square, Boll, Radius, Taper, Drilling, Thread milling และ Chamfering ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ผู้ใช้ต้องการการเลือก End mill ให้เหมาะสมกับการใช้งานโดยทั่วไปแล้วการเลือกใช้ End mill ต้องมีความแข็งมากกว่าตัวชิ้นงานที่จะแปรรูป องค์ประกอบสำคัญในการเลือกใช้คือ ความแข็งของตัวชิ้นงาน ลักษณะรูปแบบที่ต้องการ(ตามแบบที่กำหนด) วิธีการขึ้นรูปรวมไปถึงเครื่องจักรที่ใช้เช่น ควรใช้End mill 1-3ฟันในการขึ้นรูปแบบ Slot milling End mill 4-10ฟันในการขึ้นรูปแบบ Side milling ทั้งนี้ผู้เขียนจะแนะนำการเลือกใช้เป็น Coode Model End mill ของแต่ละ Brand ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานในประเทศไทยเป็นอย่างดีหรือที่เรียกกันว่า “เจ้าตลาด” นั่นเองสำหรับ 3 เจ้าตลาด End mill สัญชาติญี่ปุ่น ในงานแม่พิมพ์ประเทศไทย ผู้เขียนขอแนะนำตามนี้NS TOOL จากบริษัท NS TOOL CO., LTD. จัดจำหน่ายโดย Factory Max Co., Ltd. อ.เมือง สมุทรปราการEnd mill สำหรับงานทั่วไป ความแข็งเหล็กไม่เกิน 55HRC.เช่น S45C, S50C, NAK80, P20, Copper เป็นต้นSquare Model แนะนำเป็น MSE230 (2ฟันทั่วไป) MHR230 (2ฟันคอยาว) และ MSE430 (4ฟันทั่วไป) MHR430 (4ฟันคอยาว) ส่วนตัวทีเด็ดต้องยกให้ Model นี้เลย MSZ345 มีความสามารถกัดได้เร็วกัดในแนวแกนZได้เท่ากับØของตัวมันเอง เช่นØ10 ก็กัดได้ครั้งละ10มิลลิเมตรไปเลย แต่ก็เหมาะสำหรับงาน Rough cutting เท่านั้นนะเพราะผิวงานไม่ค่อยเท่าไรBall Model แนะนำเป็น MSB230 (2ฟันทั่วไป) MRB230 (2ฟันคอยาว) และMSB345 ใช้รอบต่ำ feed เร็วเหมาะกับงาน Rough ที่ต้องการเวลา ส่วนงาน Cut Copper แนะนำเป็น Model นี้เลย DRB230 ชื่อนี้ไม่มีผิดหวัง ผิวเงาเรียบเนียนสามารถกัดชิ้นงานเล็กสูงๆได้และfeed เร็วกว่าEnd millทั่วไปEnd mill สำหรับงานที่มีความแข็งเหล็กเกิน 55HRC. (เหล็กแข็ง) เช่น SKD61, SKD11, SKH51, STAVAXSquare Model แนะนำเป็น MHRH230 (2ฟันคอยาว) MHRH430 (4ฟันคอยาว) แต่มีสูงสุดแค่Ø6mm.ถ้าต้องการใช้ใหญ่กว่านี้ต้องใช้ Model MHDH645 มีตั้งแต่Ø5-12mm.Ball Model แนะนำเป็น MRBH230 (2ฟันคอยาว) เหมาะกับงาน Cutting finish Model เดียวเอาอยู่UNION TOOL จากบริษัท UNION TOOL CO.จัดจำหน่ายโดย Yuasa Trading (Thailand) Co., Ltd. บางรัก กรุงเทพมหานครEnd mill สำหรับงานทั่วไป ความแข็งเหล็กไม่เกิน 55HRC.เช่น S45C, S50C, NAK80, P20, Copper เป็นต้นSquare Model แนะนำเป็น CSS (2ฟันทั่วไป) C-CER (2ฟันคอยาว) และ C-CES4000 (4ฟันทั่วไป)Ball Model แนะนำเป็น CSELB (2ฟันคอยาว) และCFB ใช้รอบต่ำ feed เร็วเหมาะกับงาน Rough ที่ต้องการเวลา ส่วนงาน Cut Copper แนะนำเป็น Model นี้เลย DLCLB ผิวเงาเรียบเนียนสามารถกัดชิ้นงานเล็กสูงๆได้และfeed เร็วกว่าEnd millทั่วไปEnd mill สำหรับงานที่มีความแข็งเหล็กเกิน 55HRC. (เหล็กแข็ง) เช่น SKD61, SKD11, SKH51, STAVAXSquare Model แนะนำเป็น HLS2000 (2ฟันคอยาว) HLS4000 (4ฟันคอยาว) แต่มีสูงสุดแค่Ø6mm.ถ้าต้องการใช้ใหญ่กว่านี้ต้องใช้ Model HMS มีตั้งแต่Ø1-12mm.Ball Model แนะนำเป็น HSLB (2ฟันคอยาว) เหมาะกับงาน Cutting finish Model เดียวเอาอยู่OSG จากบริษัท OSG Corporation จัดจำหน่ายโดย Misumi (Thailand) Co., Ltd. บางนา กรุงเทพมหานครEnd mill สำหรับงานทั่วไป ความแข็งเหล็กไม่เกิน 55HRC.เช่น S45C, S50C, NAK80, P20, Copper เป็นต้นSquare Model แนะนำเป็น WXL-3D-DE (2ฟันทั่วไป) WXL-LN-EDS (2ฟันคอยาว)  และ WXL-EMS (4ฟันทั่วไป) WXL-LN-EMS (4ฟันคอยาว)Ball Model แนะนำเป็น WXL-LN-EBD (2ฟันคอยาว) ส่วนงาน Cut Copper แนะนำเป็น Model นี้เลย AE-LNBD-N ผิวเงาเรียบเนียนสามารถกัดชิ้นงานเล็กสูงๆได้และfeed เร็วกว่าEnd millทั่วไปEnd mill สำหรับงานที่มีความแข็งเหล็กเกิน 55HRC.(เหล็กแข็ง) เช่น SKD61, SKD11, SKH51, STAVAXSquare Model แนะนำเป็น FX-LN-EMS-6 (คอยาว) แต่มีสูงสุดแค่Ø6mm.ถ้าต้องการใช้ใหญ่กว่านี้ต้องใช้ Model FXS-EML มีตั้งแต่Ø6-25mm.Ball Model แนะนำเป็น WX-EBD เหมาะกับงาน Cutting finish Model เดียวเอาอยู่                 ข้อมูลทั้งหมดเป็นการแนะนำจากผู้เขียนโดยการใช้งานจริงในการทำงานประจำซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับผู้ผลิต End mill แต่อย่างใด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย ขอบคุณภาพจากภาพหน้าปก http://wishareit.comรูปภาพที่1และ2 https://www.ns-tool.com/en/products/รูปภาพที่3และ4 https://www.uniontool.co.jp/en/รูปภาพที่5และ6 https://www.osg.co.jp/en/อัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !

MEA จัดนิทรรศการประวัติศาสตร์ไฟฟ้าไทย
อ่าน

MEA จัดนิทรรศการประวัติศาสตร์ไฟฟ้าไทย

วันนี้ (20 ต.ค. 63) นางสาวผ่องพรรณ กัลลประวิทย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA พร้อมด้วย นางสาวสุภาภรณ์ ตรีแสน รองผู้อำนวยการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ร่วมเปิดนิทรรศการพระปิยมหาราชเจ้าดุจประทีปทอง ไฟฟ้าไทยสว่างเรืองรอง สถิตในใจไทยนิรันดร์ เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม - 22 พฤศจิกายน 2563 ณ นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนินกลางผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงปฏิบัติอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะในด้านสาธารณูปการด้านพลังงานไฟฟ้า ซึ่งส่งผลให้เกิดการใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2427 และถือกำเนิดกิจการไฟฟ้าไทยที่สร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าให้กับประเทศไทยจนถึงปัจจุบัน โดย MEA ถือเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจประเภทสาธารณูปโภคสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่มีประวัติศาสตร์ในการก่อตั้งอันยาวนาน ได้รับการสถาปนาขึ้นในวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2501 ถือเป็นการไฟฟ้าแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งดูแลระบบไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพ ฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ อายุยาวนาน 62 ปี มีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้จัดนิทรรศการเพื่อเผยแพร่ให้เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้ศึกษา และรับความองค์ความรู้ด้านพลังงานไฟฟ้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้เข้าชมจะได้พบกับโซนจัดแสดงทั้งหมด 4 โซน ประกอบด้วยโซนที่ 1 คือ ‘สมเด็จพระปิยมหาราช’ พระบารมีล้นเกล้าชาวประชาโซนที่ 2 คือ จากแสงแรกแห่งสยาม สู่แสงไฟสว่างไสวทั้งประเทศโซนที่ 3 คือ แรกมีไฟฟ้าในสยามประเทศโซนที่ 4 คือ พิพิธภัณฑ์การไฟฟ้านครหลวงสำหรับการจัดแสดงทั้งหมดเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวต้นกำเนิดกิจการไฟฟ้าไทย ผ่านหลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ การจำลองบรรยากาศของไฟฟ้าสามเสน และไฟฟ้าวัดเลียบที่เป็นสถานที่สำคัญด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย ตลอดจนการสัมผัสเรื่องราวของรถรางในอดีตที่การไฟฟ้านครหลวงได้เคยเป็นหน่วยงานที่ควบคุมดูแล และได้เก็บรักษาเพื่อเป็นอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการจัดนิทรรศการในครั้งนี้แล้ว MEA ยังได้ดำเนินการจัดทำพิพิธภัณฑ์การไฟฟ้านครหลวง โดยใช้อาคาร 1 การไฟฟ้านครหลวงเขตวัดเลียบ ซึ่งเป็นที่ทำการแห่งแรกของ MEA โดยจะจัดแสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย รวมถึงการวิวัฒนาการมาสู่ระบบพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน ผ่านรูปแบบการนำเสนอที่มีความสนุกสนาน และตื่นตาตื่นใจ โดยจะเปิดให้กับประชาชนทั่วไปได้เข้ารับชมเร็ว ๆ นี้สำหรับประชาชนผู้สนใจ สามารถเข้าชมนิทรรศการพระปิยมหาราชเจ้าดุจประทีปทอง ไฟฟ้าไทยสว่างเรืองรอง สถิตในใจไทยนิรันดร์ ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม - 22 พฤศจิกายน 2563 (หยุดทุกวันจันทร์) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งสามารถรับชมการแสดง และกิจกรรมด้านดุริยางคศิลป์ นาฏศิลป์ และทัศนศิลป์ จากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ของประเทศไทย ภายในส่วนจัดแสดงอาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 11.00 - 14.30 น. นอกจากนี้ ยังพบกับการแสดงพิเศษในวันที่ 23 ตุลาคม 2563 เนื่องในวันปิยมหาราช เชิญรับชมการแสดงละครเรื่อง เงาะป่า จากวิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรมเกาะติดข่าวที่นี่ website: www.TNNThailand.com facebook : TNNThailand facebook live : TNN Live twitter : @TNNThailand Line : @TNNONLINE Youtube Official : TNNThailand Instagram : @tnn_online TIKTOK : @tnnonline

ดวลพายุหมัด! 'เน็ต My Mate Nate' ชนะคะแนน 'ธันน์ ธนากร' สุดเดือดมวย 10 FIGHT 10
อ่าน

ดวลพายุหมัด! 'เน็ต My Mate Nate' ชนะคะแนน 'ธันน์ ธนากร' สุดเดือดมวย 10 FIGHT 10

ผลมวย10 FIGHT 10 'เน็ต My Mate Nate' แลกหมัด 'ธันน์ ธนากร' สุดดุเดือด ก่อนที่ เน็ต จะเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้สำเร็จ สังเวียนมวยดารา 10 FIGHT 10 ซีซั่นสอง ที่สตูดิโอ เวิร์คพอยท์ เมื่อวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน เป็นการชกคู่ที่ 8 ระหว่าง เน็ต My Mate Nate ยูทูบเบอร์ชื่อดังจากทีมแบล็ค พบกับ ธันน์ ธนากร พระเอกนักบู๊จากทีมไวท์ โดยคู่นี้ชกในพิกัด 76.20 กก. ซึ่ง เน็ต ชั่งน้ำหนักก่อนชกได้ 75.55 กก. ส่วน ธันน์ ชั่งได้ 73.40 กก. เริ่มมายกแรก ธันน์ เป็นฝ่ายเดินเข้าใส่ทันที และพยายามออกหมัดต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่เข้าเป้าเท่าใดนัก ขณะที่ เน็ต อาศัยความว่องไวหลบหลีก พร้อมกับมีจังหวะดักออกหมัดทำแต้มจังๆ หลายครั้ง ยกที่สอง ธันน์ รู้ตัวว่าคะแนนเป็นรอง จึงออกมาเดินลุยแหลก พร้อมกับออกอาวุธเป็นชุด มีทั้งวืดบ้าง-เข้าเป้าบ้าง ส่วน เน็ต พยายามหาจังหวะสวน และมีช่วงที่ทั้งคู่ปักหลักยืนแลกหมัดกันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร ยกสาม การชกเป็นไปอย่างดุเดือด ทั้งคู่ออกมาสาวหมัดใส่กันไม่หยุด แม้จะเริ่มอ่อนแรงด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่ก็ยังคงออกอาวุธใส่กันจนกระทั่งเสียงระฆังหมดยกดังขึ้น หลังการชกเสร็จสิ้น ผลจากคณะกรรมการตัดสินให้'เน็ต My Mate Nate' ชนะ 'ธันน์ ธนากร' ด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 29-28, 29-28, 29-29 เก็บเพิ่มอีก 1 คะแนนให้กับทีมแบล็ค ทำให้คะแนนรวมในตอนนี้ ทีมแบล็ค นำ ทีมไวท์ 9-6 คะแนน ส่วนการชกคู่ต่อไป ซึ่งเป็นคู่ที่ 9 "เขต ธาราเขต" จากทีมแบล็ค ดวลกับ "ตูมตาม ยุทธนา" จากทีมไวท์ ในวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม เริ่มถ่ายทอดสด เวลา 20.15 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์ทีวี ข่าวที่เกี่ยวข้อง เดือดทุกคู่-บู๊ทุกไฟต์!! ชมคลิป มวยดารา "10 Fight 10" ซีซั่น 2 ทุกคู่ ฟิตกว่าเยอะ!! "ลีซอ" ชนะคะแนนเอกฉันท์ "เจ๋ง บิ๊กแอส" มวย 10 FIGHT 10 ---------------------- ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ คลิกที่นี่ เก็งไม่มีพลาด! ฟันธงคู่ไหนเด็ด! เจาะลึกก่อนเกมพรีเมียร์ลีก สมัครทาง SMS พิมพ์ R1 ส่งมาที่ 4238066 หรือคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้

เก็บตกภาพแห่งความสุข "KRIST BRIGHT COUNTDOWN CONCERT in JAPAN" ก้าวสู่ปีใหม่ 2024
อ่าน

เก็บตกภาพแห่งความสุข "KRIST BRIGHT COUNTDOWN CONCERT in JAPAN" ก้าวสู่ปีใหม่ 2024

แฟน ๆ ญี่ปุ่นร่วมงานแน่นขนัด "คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์" และ "ไบร์ท วชิรวิชญ์ ชีวอารี" มันส์สุดขีดโชว์จัดเต็ม ระเบิดความสนุก ก้าวสู่ปีใหม่ 2024 ในงาน "KRIST BRIGHT COUNTDOWN CONCERT in JAPAN" ประมวลภาพ "KRIST BRIGHT COUNTDOWN CONCERT in JAPAN" บินตรงไปมอบความสนุกแบบจัดเต็มให้แฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นได้สนุกและมีความสุขสุด ๆ ในช่วงเทศกาล ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สำหรับ 2 ศิลปินหนุ่มสุดฮอต "คริส พีรวัส" และ "ไบร์ท วชิรวิชญ์" กับงาน "KRIST BRIGHT COUNTDOWN CONCERT in JAPAN" โดย GMMTV คอนเทนต์โพรไวเดอร์ชั้นนำของเมืองไทย ที่ได้เติมเต็มความทรงจำดี ๆ ไปพร้อมกับแฟน ๆ อย่างสนุกสนานเต็มอิ่ม กับ ทั้งคอนเสิร์ตเดี่ยวของ คริส ในวันเสาร์ที่ 30 ธันวาคม 2566 และคอนเสิร์ตเดี่ยวของ ไบร์ท ในตอนบ่าย วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566 ก่อนจะปิดท้ายรอบดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566 ที่เป็น คอนเสิร์ต COUNTDOWN จาก คริส-ไบร์ท เรียกว่าทั้งสองวันสองหนุ่มก็ได้โชว์ฟอร์มแบบเกินร้อย ทุกรอบการแสดงทั้งร้องเต้นระเบิดความสนุกก้าวสู่ปีใหม่ 2024 พร้อมกับแฟน ๆ ด้วยความมันส์สุดขีด ณ TOYOSU PIT กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อ่านข่าวบันเทิงวันนี้ที่เกี่ยวข้อง : ไลฟ์ที่รอคอย ไบร์ท วชิรวิชญ์ 1 ชม.กับความน่ารักของคุณเค้า วันสำคัญของพี่! วิน เมธวิน อวยพรวันเกิด ไบร์ท วชิรวิชญ์ โมเมนต์นี้ทำเขินมาก มีคนโดนตก!! คริส พีรวัส ประกาศกลางโซเชียล ขอเป็นมัมหมี่ นุนิว ชวรินทร์

"ฟลุ้ค-ยูโด" เตรียมจัดแฟนมีต ในงาน JudoFluke Japan 1st Fan Meeting in Tokyo
อ่าน

"ฟลุ้ค-ยูโด" เตรียมจัดแฟนมีต ในงาน JudoFluke Japan 1st Fan Meeting in Tokyo

จับมือกันปังไกลข้ามประเทศต่อยอดจากซีรีส์แบบสวยๆ สำหรับ ฟลุ้ค ณธัช ศิริพงษ์ธร และ ยูโด ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์ ที่ก่อนหน้านี้ประกบคู่กันครั้งแรกในซีรีส์ Make a Wish ภารกิจนายเทวดา เดอะซีรีส์ ได้รับกระแสโดนใจแฟนคลับชาวไทยไปหมาดๆ แต่ล่าสุดปังยิ่งกว่า เมื่อซีรีส์ไปลงจอฉายในประเทศญี่ปุ่น ก็ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆแดนซากุระอย่างล้นหลาม จนล่าสุดเตรียมจัดงานแฟนมีตครั้งแรกที่ญี่ปุ่นไปเลย ในงาน JudoFluke Japan 1st Fan Meeting in Tokyo ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ ฟลุ้ค เผยว่า "ช่วงนี้ซีรีส์ Make a Wish ที่ฟลุ้คกับพี่ยูโดเล่นได้ไปฉายที่ญี่ปุ่นด้วยครับ ทาง AsiaDramaticTV アジアドラマチックTV [アジドラ], J:COM, SKY PerfectTV, Hikari TV และ CableTV และช่วงที่เรากำลังจะไปแฟนมีตก็เป็นช่วงที่น่าจะกำลังจบพอดีครับ เลยถือโอกาสตรงนี้ไปจัดแฟนมีตคู่กันที่ญี่ปุ่นด้วยเลย เพราะถือว่าเป็นครั้งแรกด้วยครับ ความพิเศษก็จะมีเล่นเกมกับแฟนคลับ รวมถึง benefits ต่างๆ เช่นถ่ายรูป และ hi-touch ครับ ส่วนความพิเศษน่าจะเป็นโชว์การแสดงพิเศษ อาจจะมีร้องเพลงที่พวกเราทั้งสองคนยังไม่เคยร้อง มาร้องให้แฟนๆที่มาร่วมงานได้ฟังกัน และอาจจะมีร้องเพลงประกอบซีรีส์ที่พวกเราเล่นด้วยกันครับ ต้องขอบคุณทุกคนมากที่ติดตามพวกเราทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับที่ติดตามเราอยู่แล้ว หรือ จะเป็นคนใหม่ๆ ที่เพิ่งรู้จักกับพวกเรา หวังว่าทุกคนจะชื่นชอบซีรีส์เรื่องนี้และผลงานของพวกเราทั้งสองคนนะครับ ตื่นเต้นมากครับ เพราะมีตคู่นี้เป็นครั้งแรกของเราที่ได้ไปจัดต่างประเทศด้วยกัน ฟลุ้คว่าพี่ยูโดก็คงตื่นเต้นไม่แพ้กัน ฟลุ้คเองก็มีคุยกับพี่ยูโดไว้บ้างแล้วครับว่าจะร้องเพลงอะไรกันดี จะแต่งตัวยังไง หรือเราจะสร้างโมเม้นต์ความประทับใจอะไรให้กับอินเตอร์แฟนที่ไปร่วมงานในครั้งนี้ครับ สามารถติดตามที่ฟลุ้คโพสต์ได้เลยครับ หรือ ช่องทาง official ของงานครับ จะมีรายละเอียดทั้งกดบัตร และ benefits ต่างๆครับ ฝากติดตามแฟนมีต JudoFluke Japan 1st Fan Meeting in Tokyo ของพวกเราทั้งสองคนไว้ด้วยนะครับ และฝากเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วย และก็ฝากผลงานมินิซีรีส์ ของทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ครับ ซึ่งในโปรเจกต์นี้ก็รวมนักแสดงไว้หลายคนเลย ซึ่งฟลุ้คกับพี่ยูโดก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นี้ด้วย เราจะไปถ่ายที่ ตราด ครับ ชื่อตอนว่า เฮียไม่ปลื้ม ถ่ายในวันที่ 14 กันยายน นี้ครับ ที่จะมาพร้อมความสนุกและภาพบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในจังหวัด ตราด ด้วยครับ" ยูโด กล่าวเสริมว่า "ตื่นเต้นครับ ตื่นเต้นมาก ปกติแค่มีแฟนมีตก็ตื่นเต้นแล้วแต่รอบนี้ไปต่างประเทศ ถือว่าเป็นแฟนมีตต่างประเทศครั้งแรกด้วย ดีใจครับที่ได้มีโอกาสนี้ ก็ต้องขอบคุณแฟนๆทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ให้การตอบรับที่ดีเลยทำให้มีโอกาสนี้ครับ เราก็พร้อมที่จะทำให้เต็มที่เพื่อตอบแทนแฟนๆครับ ต้องเป็นอะไรที่พิเศษแน่นอนครับ ให้สมกับเป็นแฟนมีตต่างประเทศครั้งแรกครับ ฝากแฟนมีตต่างประเทศของผมกับฟลุ้คครั้งแรกด้วยครับ รับรองว่าจะมีความสุขไปด้วยกันแน่นอน งาน Judo Fluke Japan 1st Fan meeting in Tokyo จะมีขึ้น วันที่ 21 ตุลาคม 2023 จำนวน 2 รอบ สถานที่ Parthenon Tamaสามารถซื้อบัตรได้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2023

The Japan Foundation Library ห้องสมุดฟรี!! สำหรับคนเมือง!!
อ่าน

The Japan Foundation Library ห้องสมุดฟรี!! สำหรับคนเมือง!!

สำหรับใครที่กำลังหาแหล่งเรียนรู้ฟรี ๆ มีมุมสงบ ๆ ให้ได้รวบรวมสมาธิในการอ่านหนังสือ อยู่ในตัวเมือง ปลอดภัย  หรือใครที่กำลังหามุมสงบ ๆ อยู่ในเมืองแต่ไม่วุ่นวาย หรือหามุมในการอ่านหนังสือแบบส่วนตัวคนเดียวนอกบ้าน หรือหาสถานที่อ่านหนังสือกับเพื่อนเป็นกลุ่ม ๆ หรืออาจจะกำลังตามหาสถานที่นั่งปั่นงานแบบสงบ ๆ และเป็นส่วนตัว ที่สำคัญไม่เสียค่าใช้จ่าย วันนี้เรามีห้องสมุดที่เพิ่งปรับโฉมใหม่ให้มีบรรยากาศที่เหมาะต่อการเรียนรู้สำหรับคนเมืองมาแนะนำกัน!! ภาพโดย S. Hermann F. Richter จาก Pixabay   ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้วห้องสมุด “The Japan Foundation” อาจจะเป็นห้องสมุดที่ตกแต่งด้วยไม้สีทึม ๆ แต่ปัจจุบันได้มีการปรับโฉมใหม่ให้เข้ากับคนยุคใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับโทนห้องสมุดให้มีความสว่าง และ ตกแต่งให้ดูเหมือนคาเฟ่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น ทั้งนี้ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว ก็ยิ่งทำให้เหมาะกับการเป็นสถานที่หาความรู้และเรียนรู้เป็นที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาหามุมส่วนตัว หาบรรยากาศที่เหมาะต่อการเสริมสร้างสมาธิ ในการเรียนรู้  จะต้องเป็นปลื้มกับที่นี่เป็นแน่ เพราะมีตัวเลือกในการหามุมพื้นที่สงบ ๆ มากมาย และยังสามารถเลือกมุมส่วนตัวในแบบ เคาท์เตอร์บาร์สไตล์คาเฟ่ ซึ่งสามารถนั่งหันหน้าออกไปทางหน้าต่างกระจกเพื่อทัศนาวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองได้อีกด้วย  หรือหากวันใดต้องการมาอ่านหนังสือกับเพื่อน ๆ ที่นี่ก็มีโต๊ะกลมบริเวณโซนด้านหน้าให้เลือกหนังอ่านหนังสือกันแบบเป็นกลุ่ม ๆ ได้ด้วย โดยปกติแล้วสามารถเข้ามาใช้บริการได้ฟรี นอกจากนี้แล้วยังมี Wifi ฟรีให้ได้ใช้กันด้วย เพียงแต่ต้องขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจจะต้องกรอกข้อมูลบัตรประชาชน เพื่อแลกกับ Username และ Password หากว่าแบตเตอร์รีของเราใกล้จะหมดก็อย่าได้กลัวไป เพราะมีปลั๊กไฟที่คอยอำนวยความสะดวกให้เราได้ชาร์ตแบตกันได้อย่างฟรี ๆ อีกด้วย  (หากไม่มีที่ไหนจะไปก็คงต้องมาที่นี่แล้วแหละ) ด้วยความที่ “The Japan Foundation” มีหนังสือที่หลากหลายทั้งไทยและต่างประเทศ หากเราสนใจที่จะหยิบยืมไปอ่านที่บ้านบ้าง ก็สามารถทำได้โดยการสมัครสมาชิกรายปี ซึ่งก็จะมีเรตแตกต่างกันไป เช่น  นักเรียน หรือ นักศึกษา ค่าสมัครสมาชิก 300 บาท บุคคลทั่วไป 600 บาท เป็นต้น ด้วยความที่เป็นรายปี ยังไงก็คุ้มอยู่ดี ซึ่งสามารถยืมหนังสือได้ครั้งละ 3 เล่มต่อ 2 สัปดาห์  ภาพโดย Rousseau จาก Pixabay  สำหรับการเดินทางก็สะดวกสบาย หากมาโดย รถไฟฟ้า BTS สามารถมาลงได้ที่ “สถานีอโศก” ทางออกที่ 3 แต่หากเดินทางมาโดยรถไฟใต้ดิน MRT สามารถลงได้ที่ “สถานีสุขุมวิท” ทางออกที่ 1 ไปที่อาคารเสริมมิตรทาวเวอร์ แลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นมาที่ “The Japan Foundation” ชั้น 10 เป็นอันว่าถึงเลย!! ซึ่ง “The Japan Foundation” เปิดให้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ 9.00 น. - 19.00 น. และวันเสาร์ 9.00 น. - 17.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ เห็นทีงานนี้ต้องรีบไปบ้างแล้ว เพราะไม่ค่อยเห็นห้องสมุดที่เปิดบริการฟรีสำหรับบุคคลทั่วไปได้ใช้ประโยชน์ได้มากมายขนาดนี้สักเท่าไหร่ ที่สำคัญเดินทางก็สะดวกและง่ายมาก ๆ  สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครัน ใครไปมาแล้วแบ่งปันเล่าความประทับใจกันได้นะคะรับ   

The Japan Foundation Library ห้องสมุดฟรี!! สำหรับคนเมือง!!
อ่าน

The Japan Foundation Library ห้องสมุดฟรี!! สำหรับคนเมือง!!

สำหรับใครที่กำลังหาแหล่งเรียนรู้ฟรี ๆ มีมุมสงบ ๆ ให้ได้รวบรวมสมาธิในการอ่านหนังสือ อยู่ในตัวเมือง ปลอดภัย  หรือใครที่กำลังหามุมสงบ ๆ อยู่ในเมืองแต่ไม่วุ่นวาย หรือหามุมในการอ่านหนังสือแบบส่วนตัวคนเดียวนอกบ้าน หรือหาสถานที่อ่านหนังสือกับเพื่อนเป็นกลุ่ม ๆ หรืออาจจะกำลังตามหาสถานที่นั่งปั่นงานแบบสงบ ๆ และเป็นส่วนตัว ที่สำคัญไม่เสียค่าใช้จ่าย วันนี้เรามีห้องสมุดที่เพิ่งปรับโฉมใหม่ให้มีบรรยากาศที่เหมาะต่อการเรียนรู้สำหรับคนเมืองมาแนะนำกัน!!ภาพโดย S. Hermann F. Richter จาก Pixabay   ย้อนกลับไปเมื่อนานมาแล้วห้องสมุด “The Japan Foundation” อาจจะเป็นห้องสมุดที่ตกแต่งด้วยไม้สีทึม ๆ แต่ปัจจุบันได้มีการปรับโฉมใหม่ให้เข้ากับคนยุคใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับโทนห้องสมุดให้มีความสว่าง และ ตกแต่งให้ดูเหมือนคาเฟ่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น ทั้งนี้ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบเป็นส่วนตัว ก็ยิ่งทำให้เหมาะกับการเป็นสถานที่หาความรู้และเรียนรู้เป็นที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาหามุมส่วนตัว หาบรรยากาศที่เหมาะต่อการเสริมสร้างสมาธิ ในการเรียนรู้  จะต้องเป็นปลื้มกับที่นี่เป็นแน่ เพราะมีตัวเลือกในการหามุมพื้นที่สงบ ๆ มากมาย และยังสามารถเลือกมุมส่วนตัวในแบบ เคาท์เตอร์บาร์สไตล์คาเฟ่ ซึ่งสามารถนั่งหันหน้าออกไปทางหน้าต่างกระจกเพื่อทัศนาวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองได้อีกด้วย  หรือหากวันใดต้องการมาอ่านหนังสือกับเพื่อน ๆ ที่นี่ก็มีโต๊ะกลมบริเวณโซนด้านหน้าให้เลือกหนังอ่านหนังสือกันแบบเป็นกลุ่ม ๆ ได้ด้วยภาพโดย klimkin จาก Pixabay  โดยปกติแล้วสามารถเข้ามาใช้บริการได้ฟรี นอกจากนี้แล้วยังมี Wifi ฟรีให้ได้ใช้กันด้วย เพียงแต่ต้องขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจจะต้องกรอกข้อมูลบัตรประชาชน เพื่อแลกกับ Username และ Password หากว่าแบตเตอร์รีของเราใกล้จะหมดก็อย่าได้กลัวไป เพราะมีปลั๊กไฟที่คอยอำนวยความสะดวกให้เราได้ชาร์ตแบตกันได้อย่างฟรี ๆ อีกด้วย  (หากไม่มีที่ไหนจะไปก็คงต้องมาที่นี่แล้วแหละ) ด้วยความที่ “The Japan Foundation” มีหนังสือที่หลากหลายทั้งไทยและต่างประเทศ หากเราสนใจที่จะหยิบยืมไปอ่านที่บ้านบ้าง ก็สามารถทำได้โดยการสมัครสมาชิกรายปี ซึ่งก็จะมีเรตแตกต่างกันไป เช่น  นักเรียน หรือ นักศึกษา ค่าสมัครสมาชิก 300 บาท บุคคลทั่วไป 600 บาท เป็นต้น ด้วยความที่เป็นรายปี ยังไงก็คุ้มอยู่ดี ซึ่งสามารถยืมหนังสือได้ครั้งละ 3 เล่มต่อ 2 สัปดาห์ ภาพโดย Rousseau จาก Pixabay  สำหรับการเดินทางก็สะดวกสบาย หากมาโดย รถไฟฟ้า BTS สามารถมาลงได้ที่ “สถานีอโศก” ทางออกที่ 3 แต่หากเดินทางมาโดยรถไฟใต้ดิน MRT สามารถลงได้ที่ “สถานีสุขุมวิท” ทางออกที่ 1 ไปที่อาคารเสริมมิตรทาวเวอร์ แลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นมาที่ “The Japan Foundation” ชั้น 10 เป็นอันว่าถึงเลย!! ซึ่ง “The Japan Foundation” เปิดให้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ 9.00 น. - 19.00 น. และวันเสาร์ 9.00 น. - 17.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์       

Best Book Look Great : JAPAN สำหรับสนทนาภาษาญี่ปุ่น
อ่าน

Best Book Look Great : JAPAN สำหรับสนทนาภาษาญี่ปุ่น

เครดิตรูปภาพ : streetwillคอนนิจิวะ ภาษาญี่ปุ่นถือเป็นอีกหนึ่งภาษาที่มีความยากในการเรียนรู้ติดอันดับต้น ๆ ของโลก เนื่องจากภาษาญี่ปุ่นนั้นมีหลายลักษณะ ทั้งฮิระงานะ คาตาคานะ และคันจิ รวมทั้งระดับการสื่อสารก็แตกต่างกันออกไป ซึ่งถ้าเรียนภาษาญี่ปุ่นระดับที่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ คุณก็จะสัมผัสได้ถึงความเยอะ (ของไวยกรณ์) ซึ่งต้องทำความเข้าใจในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่ถ้าอยากสื่อสารกับคนญี่ปุ่นได้สไตล์นักท่องเที่ยวหละ เราจะต้องรู้จักประโยคไหนบ้าง ต้องรู้ศัพท์คำใดหรือรู้ไวยกรณ์ใดเอาไว้เพื่อเอาตัวรอดบ้าง บทความนี้มีคำตอบกับช่วง Best Book Look Great ที่จะมาแนะนำหนังสือที่มีชื่อว่า JAPAN สำหรับสนทนาภาษาญี่ปุ่นเครดิตรูปภาพ : โดยผู้เขียนJAPAN สำหรับสนทนาภาษาญี่ปุ่น เป็นหนังสือที่ต้องไว้เมื่อไปประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว เพราะเล่มไม่หนามาก รวมทั้งภายในเล่มไม่ได้มีแค่คำศัพท์ที่สำคัญเท่านั้น แต่จะมีประโยคสนทนาการถาม - ตอบพื้นฐาน และแทรกสาระความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นไว้ตลอดทั้งเล่ม ภายในเล่มเป็นรูปภาพการ์ตูนสี่สีตลอดทั้งเล่ม ทำให้สามารถเข้าใจความหมายผ่านภาพเหล่านี้ได้ง่าย ๆ และมีทั้งภาษาไทย ญี่ปุ่นและอังกฤษควบคู่กันไปในทุกประโยคไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์หรือประโยคสนทนาต่าง ๆ  ภายในเล่มจะมีการแบ่งหมวดหมู่ให้ชัดเจน โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ใหญ่ ๆ ทั้งหมด 8 หมวดหมู่ด้วยกัน ได้แก่ สำนวนพื้นฐาน การเดินทาง การรับประทานอาหาร การซื้อของ การท่องเที่ยว เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับญี่ปุ่น เมื่อเกิดปัญหาควรพูดอย่างไร และ ไวยากรณ์พื้นฐานเบื้องต้นที่ควรรู้ เรียกได้ว่ามีข้อมูลที่สำคัญครอบคลุมทุกส่วนเลยหละเครดิตรูปภาพ : ภาพโดยผู้เขียนโดยด้านหน้าปกก็ระบุเอาไว้ชัดเจนเลยว่า หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณได้เรียนรู้การสื่อสารจากความคิดของท่านด้วยภาพประกอบที่ใช้ง่ายและวลีที่มีประโยชน์สำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ ในการเดินทางท่องเที่ยวของท่าน แสดงให้เห็นความหลากหลายของการใช้สำนวนและการเลือกใช้แทนกันได้ ประกอบด้วยคำอธิบายหลากหลาย ทั้งแนวทางของวัฒนธรรมรวมทั้งประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น มีการจัดเตรียมวลีที่เป็นประโยชน์เพื่อจัดการเกี่ยวกับเหตุฉุกเฉิน การถูกลักทรัยพ์ และการเจ็บป่วยต่าง ๆเครดิตรูปภาพ : streetwillเครดิตรูปภาพ : streetwillJAPAN สำหรับสนทนาภาษาญี่ปุ่นสามารถหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือ Kinokuniya ในราคาประมาณ 200 กว่าบาท บอกได้เลยว่าซื้อเล่มนี้เล่มเดียวคุ้มมาก ๆ หรือใครที่อยากลองเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นแต่ยังไม่พร้อมที่จะลงเรียนเสริมอย่างจริงจัง ก็ลองหาซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านก่อนคร่าว ๆ ก็น่าสนใจนะคะ สุดท้ายนี้ก็อยากบอกทุกคนว่าถึงแม้ภาษาญี่ปุ่นจะยากติดอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ยากอย่างที่คิดแน่นอนค่ะเครดิตรูปภาพ : ภาพโดยผู้เขียนเครดิตรูปภาพหน้าปก : canva

คาเฟ่หมามาเมะชิบะ in Japan
อ่าน

คาเฟ่หมามาเมะชิบะ in Japan

คาเฟ่ที่เรากำลังจะพูดถึงเป็นคาเฟ่ที่คนรักมาเมะชิบะห้ามพลาดเลยเพราะคาเฟ่นี้มีน้องหมาชิบะมากมายและเราสามารถเล่นกับน้องได้ค่ะ คาเฟ่นี้มีชื่อว่า Mameshiba cafe อยู่ที่ ถนนทาเคชิตะ ฮาราจุกุ ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านเสื้อผ้า / ร้านคาเฟ่ และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย ตอนเราเดินไปเรื่อยๆไปเราจะเห็นป้ายที่เป็นรูปนกฮูกและรูปน้องหมามาเมะชิบะอยู่ด้านล่างเราก็เดินเข้าไปเพื่อซื้อตั๋วก่อนค่ะซึ่งคาเฟ่มาเมะชิบะจะอยู่ชั้น 3 เราสามารถขึ้นลิฟต์ไปได้ค่าตั๋วเข้าตอนที่เราไป ผู้ใหญ่จะอยู่ที่ 780 เยน ( อายุมากกว่า13 ปี ) แต่ตอนนี้มีการปรับราคาตั๋วผู้ใหญ่เป็น 880 เยน ส่วนค่าตั๋วเข้าเด็กจะอยู่ที่ 580 เยน ( อายุ6-12 ปี ) ซึ่งที่นี่ก็จะมีการจัดรอบแต่ละครั้งด้วยตอนเราไปต้องรอค่อนข้างนานเราเลยไปเดินเล่นที่ถนนทาเคชิตะก่อนค่อยกลับมาตามเวลาที่เราได้รอบ พอกลับมาเราก็ต้องแสดงตั๋วที่ได้ให้แก่พนักงานจากนั้นพนักงานก็จะอธิบายเกี่ยวกับกฎระเบียบก่อนเข้าไปเล่นกับน้อง เราต้องถอดรองเท้าไว้ตรงตู้เก็บรองเท้าก่อนเข้ามาแล้วเราก็จะพบน้องหมามาเมะชิบะมากมายน้องหมาที่นี่ที่ทั้งสีดำ /สีน้ำตาล/ สีขาว น่ารักมากๆแต่ละตัวมีการใส่ผ้าพันคอด้วย ซึ่งเราสามารถเล่นและถ่ายรูปกับน้องหมาได้แต่ห้ามเปิดแฟลชเวลาถ่ายรูปนะคะน้องหมาที่นี่คือเชื่องมาก แต่ละตัวก็จะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไปบางตัวก็จะขี้เล่น บางตัวก็จะขี้เซา แค่มองเพลินๆก็มีความสุขแล้วค่ะสำหรับคนที่ชอบน้องหมามากอย่างเราใน1รอบเราสามารถเล่นกับน้องหมาได้ 30 นาทีนะคะ หากใครอยากดื่มเครื่องดื่มไปด้วยดูน้องหมาไปด้วยก็สามารถเดินไปยังมุม Drink Bar เพราะจะมีเครื่องดื่มต่างๆให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ชา / กาแฟ / น้ำอัดลม / น้ำผลไม้ ซึ่งเราสามารถแสดงตั๋วกับพนักงานเพื่อเลือกได้ 1 เครื่องดื่มต่อ 1ใบเสร็จค่ะ ตอนเราถ่ายรูปน้องบางตัวก็โพสต์ท่าให้เราถ่ายดูเหมือนเชี่ยวชาญในการแสดงสีหน้าให้คนถ่ายรูปดูทะเล้นน่ารักมากจริงๆค่ะพอเล่นน้องหมาเสร็จแล้วหากใครอยากจะซื้อของที่ระลึกที่นี่ก็มีขายเช่นกันค่ะ เช่น ตุ๊กตาน้องหมาชิบะ และหากใครที่ชื่นชอบนกฮูกภายในตึกเดียวกันก็มีสวนนกฮูก ชื่อว่า ฮาราจุกุ โนะ ฟุขุโระ โนะโมริ (Harajuku Owl's Forest) อยู่ที่ชั้นใต้ดินอีกด้วยค่ะเรียกได้ว่าเป็นที่ที่คุ้มค่าแก่การมาเที่ยวจริงๆค่ะเวลาเปิด/ปิด วันธรรมดาคือ 11.00-19.00  น. ส่วนวันเสาร์/อาทิตย์คือ 10.30-19.30 น. 

First time in Japan : เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก
อ่าน

First time in Japan : เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก

วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ที่เราได้จากการไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อปี 2015 ซึ่งเป็นปีแรก ๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นเปิดฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยใหม่ ๆ เผื่อเป็นประโยชน์ในการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นของเพื่อน ๆ ค่ะ ข้อแรกคือเป้าหมายหลัก ต้องถามตัวเองก่อนว่าเราต้องการไปดูอะไรที่ประเทศญี่ปุ่น ตั้งเป้าหมายหลักไว้เลยค่ะ เช่นไปดูฟูจิซัง, ไปเยี่ยมชมหมู่บ้านชิราคาวาโกะ, ไปเล่นสกี เป็นต้นค่ะ เมื่อเราได้เป้าหมายหลักแล้วเราจะได้รู้ว่าเราควรไปลงที่สนามบินไหน ที่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่เราจะไปมากที่สุด ข้อสองคือ การจัดที่เที่ยวควรเที่ยวเป็นโซน เราวางแผนให้ชัดเจนว่าเราต้องการไปเมืองบ้าง เลือกแค่ไม่กี่เมืองที่ใกล้กัน ในภูมิภาคเดียวกัน และที่สำคัญไม่ควรข้ามเกาะค่ะ ญี่ปุ่นมีเกาะหลักอยู่ 4 เกาะ คือ เกาะฮอกไกโด (Hokkaido) ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น เมืองที่เป็นที่รู้จักบนเกาะนี้เช่น ซัปโปโร่, ฟูราโน่, นิเซโกะ เป็นต้นค่ะ เกาะฮอนชู (Honshu) เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญต่างๆ รวมถึงเมืองหลวงอย่างโตเกียว, โยโกฮาม่า, ฮิเมจิ, นารา, เกียวโต, นาโกน่า, ยามานาชิ เป็นต้นค่ะ เกาะชิโกกุ (Shikoku)   เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในสี่เกาะหลัก มีแค่สี่เมืองบนเกาะนี้คือ โทกูชิมะ, คางาวะ, เอฮิเมะ และโคจิ เกาะคิวชู (Kyushu) อยู่ทางใต้สุดของประเทศ เมืองสำคัญบนเกาะนี้เช่น ฟูกุโอกะ, คาโงชิมะ, โออิตะ, นางาซากิ เป็นต้นค่ะ การเดินทางไปข้ามเกาะหรือภูมิภาค แม้ว่าในปัจจุบันจะสะดวกด้วยรถไฟหัวกระสุนซึ่งมีความเร็วสูง แต่ก็ใช้เวลานานในการเดินทาง ทำให้เราต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางในแต่ละวันและเหนื่อยด้วยค่ะ ข้อสามคือ ช่วงเวลาเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งที่เราจะไป ควรไปในช่วงเวลาไหน เช่นหากเราต้องการไปชมซากุระ ควรไปในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงกลางเดือนเมษายน และเราสามารถดูตารางพยากรณ์ซากุระล่วงหน้าได้หนึ่งหรือสองเดือน และเรายังสามารถ ติดตามซากุระบานแบบ real time ได้บนเว็ปไซด์ https://www.japan-guide.com ซึ่งจะมีอัพเดทเกือบทุกวัน ตามจุดชมซากุระที่สำคัญ ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น หรือจะติดตามในหน้าเฟสบุ้คในเพจพวก japanfanclub ก็มีสมาชิกมาอัพเดทบ่อย ๆ ค่ะ ข้อที่สี่คือการเดินทาง เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างซื้อตั๋วเป็นเที่ยวและการซื้อพาส โดยเว็ปไซด์ที่ช่วยในการวางแผนการเดินทางได้ดีที่สุดคือเว็ป www.hyperdia.com ซึ่งคำนวณค่าตั๋วในแต่ละเส้นทาง และมีตัวเลือกเส้นทางให้เราเลือกได้ด้วยค่ะ ส่วนราคาพาสต่าง ๆ เราก็สามารถเช็คได้จากเว็ปทางการ https://japanrailpass.net/th/ ว่าเราควรซื้อพาสแบบครอบคลุมทั้งประเทศหรือแบบภูมิภาคก็พอ สำหรับทริปแรกเนื่องจากเราต้องเดินทางไปหลายเมือง เราจึงเลือกใช้ JR All Area แบบ 7 วัน ซึ่งราคาในปัจจุบันก็อยู่ที่ 38,880 เยน แต่ถ้าเป็นแบบภูมิภาคก็จะถูกกว่านี้ค่ะ เช่น Kansai Wide Area 5 วัน ราคาก็แค่ 9,200 เยนเท่านั้น และหากเราเที่ยวแค่ในเมืองใดเมืองหนึ่งเราไม่จำเป็นต้องใช้พาสก็ได้แต่ใช้เป็นตั๋ววันของแต่ละเมืองแทน ดังนั้นแล้วเราควรเที่ยวเป็นโซน ๆ เป็นภูมิภาคไปจะประหยัดกว่าค่ะ ข้อที่ห้าคือ การเลือกที่พัก หากเราใช้รถสาธารณะเราควรจะเลือกที่เดินทางสะดวก โดยเฉพาะใกล้สถานีรถไฟ แบบไม่ต้องเดินลากกระเป๋าไกล ๆ และเลือกตามงบประมาณที่เรามี และอ่านรีวิวประกอบจากเว็ปต่าง ๆ เช่น Tripadvisor เพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ ข้อที่หกคือ อาหารการกิน ที่ญี่ปุ่นมีอาหารให้เลือกมาก และราคาไม่แพง ถ้าเราต้องการประหยัดเราสามารถซื้ออาหารที่ปรุงสำเร็จในร้านสะดวกซื้อที่มีให้เลือกหลายแบรนด์ทั้งเซเว่น, แฟมิลี่ มาร์ท หรือ ลอร์สัน ซึ่งเราชอบเป็นพิเศษคือขนมในลอร์สัน หน้าตาหน้าทานและราคาไม่แพงด้วย ในร้านสะดวกซื้อนี้ยังมีที่นั่งสำหรับรับประทานอาหาร และมีห้องน้ำไว้บริการด้วย ซึ่งถือว่าสะดวกมาก หลังจากทริปแรกที่เราเที่ยวข้ามเกาะเพราะมีโจทย์จากเพื่อนร่วมทริปที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ หลังจากที่เราจองตั๋วเครื่องบินไปเรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่เคยเที่ยวข้ามเกาะหรือข้ามภูมิภาคของญี่ปุ่นอีกเลย แต่จะเที่ยวเป็นโซน ๆ ไป เพราะญี่ปุ่นเที่ยวได้ทั้งปีและทุกฤดูกาล @ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวญี่ปุ่น 

มารู้จัก จางรั่วหนาน(Zhang Ruonan) หรือ สวีไหล นักข่าวสุดสวยจากซีรีส์เรื่อง พบรักที่ปลายสัญญา A Date With the Future (2023)
อ่าน

มารู้จัก จางรั่วหนาน(Zhang Ruonan) หรือ สวีไหล นักข่าวสุดสวยจากซีรีส์เรื่อง พบรักที่ปลายสัญญา A Date With the Future (2023)

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคนไหนใครเป็นคอซีรีส์จีนกันบ้างเอ่ย วินาทีนี้ก็คงไม่พลาดกับผลงานซีรีส์เรื่อง พบรักที่ปลายสัญญา A Date With the Future (2023) ซึ่งผลงานซีรีส์เรื่องนี้ได้นักแสดงสาวสวยอย่าง จางรั่วหนาน มาร่วมแสดงนำในเรื่องนี้ด้วย โดยวันนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จัก จางรั่วหนาน กันว่าสาวสวยจางรั่วหนานเป็นใครมาจากไหน แล้วสาวจางรั่วหนานมีผลงานการแสดงเรื่องอะไรผ่านมาแล้วบ้าง เอาเป็นว่าไปตามดูกันเลยดีกว่ากับมารู้จัก จางรั่วหนาน หรือ สวีไหล นักข่าวสุดสวยจากซีรีส์เรื่อง พบรักที่ปลายสัญญา A Date With the Future (2023)ชื่อ : จางรั่วหนาน(Zhang Ruonan , 章若楠)เกิดเมื่อ : วันที่ 14 พฤศจิกายน ค.ศ.1996เกิดที่ : เมือง Wenzhou มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีนWeibo : เส้นทางการเข้าสู่วงการบันเทิงสาวสวยจางรั่วหนานเข้าสู่วงการบันเทิงจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง A River of Sadness ในปี 2017 โดยผลงานการแสดงเรื่องนี้เป็นการเปิดประสบการณ์ในการทำงานในวงการของสาวจางรั่วหนานเลยก็ว่าได้ ซึ่งการทำงานในครั้งแรกของสาวจางรั่วหนานในฐานะนักแสดงอย่างเต็มตัวก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ และได้ฝีกการทำงานทางด้านการแสดงอย่างจริงจัง จนทำให้เธอได้เป็นนักแสดงแนวหน้าอย่างทุกวันนี้ผลงานในวงการบันเทิงต่อมาในปี 2020 สาวจางรั่วหนานได้มีผลงานการแสดงเรื่อง Everyone Wants to Meet You ทางช่อง iQiyi ซึ่งผลงานการแสดงเรื่องนี้สาวจางรั่วหนานได้รับบทเป็นนักแสดงนำของเรื่องอีกด้วย โดยในเรื่องนี้เธอรับบทเป็น หลัวซี สาวสวยผู้เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับการเลี้ยงดูจากคุณปู่ แล้วได้มีรับภาระหน้าที่ในการดูแล้วไร่องุ่น ในเรื่องนี้สาวจางรั่วหนานแสดงได้น่ารักเป็นธรรมชาติมาก ๆ ต่อมาในปีเดียวกันก็ได้มีผลงานการแสดงเรื่อง Master Please Respect Yourself ซึ่งผลงานเรื่องนี้เธอก็ได้รับหน้าที่ในการแสดง ทั้งสองผลงานซีรีส์ที่ผ่านมาล้วนเป็นประสบการณ์ดี ๆ ที่สาวจางรั่วหนานได้เรียนรู้ ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงแนวหน้าของจีนอย่างทุกวันนี้บทบาท สวีไหลสาวน้อยสุดสดใส แต่ก่อนสาวสวีไหลเมื่อครั้งยังเป็นเด็กน้อย เธอเคยประสบภัยแผ่นดินไหว เหตุการณ์ในตอนนั้นยังคงตราตรึงในใจเธออยู่ตลอดกาล เพราะมีชายหนุ่มผู้ที่เป็นหนุ่มนักดับเพลิงเข้ามาช่วยเธอเอาไว้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นดังแรงบันดาลใจของเธอในทุกวันนี้ ปัจจุบันเธอเป็นผู้ประกาศข่าวภาคสนามคนสวยที่ทำงานขยันขันแข็งมาก ๆ ความประทับใจในเรื่องของความประทับใจก็คงจะเป็นในเรื่องของความตั้งใจในการทำงานมาก ๆ สาวจางรั่วหนานเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่พึ่งจะมีผลงานซีรีส์ในช่วง 10 ปีหลัง จนในตอนนี้เธอได้ก้าวมาเป็นนักแสดงแนวหน้าอย่างเต็มตัว เส้นทางการเป็นนักแสดงไม่ได้ง่ายเลย ต้องอาศัยการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาจนได้มาถึงวันนี้ และนักเขียนเองก็ขอเป็นกำลังใจให้สาวจางรั่วหนานได้มีผลงานการแสดงออกมาเรื่อย ๆ เลยนะคะภาพปก:章若楠:1/2/3ภาพประกอบ:章若楠:1/2/3/4/5เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

รีวิว พบรักที่ปลายสัญญา / A Date With the Future (2023) ซีรีส์จีน โรแมนติก สายอาชีพ แสดงโดย เฉินเหว่ยถิง x จางรั่วหนาน
อ่าน

รีวิว พบรักที่ปลายสัญญา / A Date With the Future (2023) ซีรีส์จีน โรแมนติก สายอาชีพ แสดงโดย เฉินเหว่ยถิง x จางรั่วหนาน

สวัสดีค่ะวันนี้จะมารีวิวซีรีส์จีนแนวโรแมนติกสายอาชีพเกี่ยวกับอาชีพนักดับเพลิงและนักข่าวภาคสนาม โดยเรื่องนี้มีชื่อว่า A Date With the Future หรือชื่อไทย พบรักที่ปลายสัญญา เนื้อเรื่องจะสนุกและน่าดูยังไงไปอ่านเรื่องย่อและรีวิวกันA Date With the Future (2023)ชื่อไทย : พบรักที่ปลายสัญญาชื่อจีน : 照亮你จำนวนตอน 36 ตอนประเภท โรแมนติก สายอาชีพ นักผจญเพลิงช่องทางการรับชม wetv เรื่องย่อเล่าเรื่องราวของสาวน้อย สวีไหล เมื่อ 10 ปีก่อนเธอติดอยู่ในซากตึกในเหตุการณ์แผ่นดินไหว จิ้นสือชวน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าช่วยเหลือเธอไว้ เธอไม่ได้บาดเจ็บมากนักแต่สภาพจิตใจย่ำแย่ตลอดเวลาในศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย จิ้นสือชวน คอยปลอบโยนเป็นแสงสว่างให้เธอลุกขึ้นสู้ต่อ ก่อนจากกันเธอได้ขอคำมั่นสัญญาจากเขาว่าเมื่อ 10 ปีต่อมาเธอจะตามหาเขาให้เจอแล้วพบกันใหม่ สุดท้ายพรหมลิขิตก็นำพาให้ทั้งสองได้มาพบกันอีกครั้ง ในเหตุการณ์อุบัติเหตุเธอมาในฐานะนักข่าวอีกทั้งเขายังจำเธอไม่ได้แถมยังเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นนักข่าวไร้จรรยาบรรณ แต่เธอไม่สนกับคำเข้าใจผิดวิ่งตรงเข้าไปหาตามจีบและใกล้ชิดเขาในทุกเหตุการณ์ ทั้งสองผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันหลายต่อหลายครั้งเรื่องราวของพวกเขาจะเป็นยังไงต่อไปติดตามกันนักแสดงจางรั่วหนาน รับบท สวีไหล นักข่าวภาคสนาม ที่มาจากต่างประเทศและเป็นเด็กใหม่ในบริษัท อดีตเธอเป็นผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเมื่อ 10 ปีก่อนและถูกนักดับเพลิงหนุ่มช่วยเอาไว้ ทำให้เขาเป็นแสงสว่างในชีวิตเธอ เฉินเหว่ยถิง รับบท จิ้นสือชวน นักผจญเพลิงหรือนักดับเพลิงหนุ่ม ที่มุ่งมั่นทำงานอาชีพอันตรายช่วยเหลือประชาชน ภายนอกดูเย็นชามากนิ่งสุขุม แท้จริงแล้วเขาเป็นคนอบอุ่นใจดีและยังมีอดีตฝังลึกในใจรีวิวการดำเนินเรื่อง เดินเรื่องได้เร็วค่อนข้างสนุกดีจากที่ดูในช่วงแรกมีความสนุกไม่เครียด ส่วนมากซีรีส์แนวสายอาชีพอันตรายตำรวจทหารนักผจญเพลิงแบบนี้ต้องมีเนื้อเรื่องที่เซ้นสถีบและเครียด แต่เรื่องนี้เดินเรื่องได้รู้สึกถึงความอบอุ่นไม่ได้เศร้าแต่ดราม่ามากจนเกินไป แต่สื่อให้เห็นถึงการทำงานในอาชีพนี้ไม่ได้เพียงแต่ต้องเป็นฮีโร่ที่ฝ่าฟันอันตรายในการผจญเพลิงแต่ยังต้องช่วยเหลือประชาชนด้านอื่นๆด้วย บอกเลยค่อนข้างดี อีกทั้งในเรื่องนี้ยังมีอาชีพนักข่าวที่สื่อถึงมุมมองการรับงานในองค์กรข่าวด้วย มาพูดถึงตัวเนื้อเรื่องกันนางเอกประสบภัยตอนอยู่ในช่วงวัยมัธยม จนได้พระเอกหนุ่มที่เหมือนว่าตอนนั้นยังเป็นพนักงานดับเพลิงใหม่ แต่ยังอุตส่าห์ช่วยนางเอกออกมาได้ อีกทั้งช่วยมาแล้วยังคอยปลอบให้ความอบอุ่นนางเอกผ่านน้องหมา มักให้น้องหมานักดับเพลิงส่งข้อความส่งนมให้กินข้าวตลอด พระเอกเลยกลายเป็นแสงสว่างให้นางเอก ณ เวลานั้น นางเอกขอคำมั่นสัญญาจากพระเอกว่าเมื่อ 10 ปีต่อมาพวกเขาจะต้องได้พบกันอีกสุดท้ายก็พบกันและนางเอกเข้าพรางแผนพยายามเข้าหาพระเอกด้วยวิธีต่างๆในอาชีพของเธอทางนักข่าวหรือแม้กระทั่งครูฝึกสุนัขเข้ามาร่วมงานกัน การแสดงของนักแสดง เรื่องนี้ได้พระเอก เฉินเหว่ยถิง มารับบทเป็นนักดับเพลิงหนุ่มมาดนิ่มสุขุมเย็นชา อีกทั้งยังแข็งแรงแข็งแกร่งมีทักษะด้านต่างๆในการช่วยเหลือประชาชน พี่แกแสดงออกมาได้ดีมากๆทั้งสื่ออารมณ์ของตัวละครและการหยิบจับอุปกรณ์ช่วยเหลือ ประกบคู่กับนางเอกสาวน่ารัก จางรั่วหนาน บอกเลยแสดงได้น่ารักเข้าถึงบทบาทเหมือนกับเป็นตัวของตัวเองเลย ยิ่งฉากที่ลุกจีบพระเอกทั้งคนทั้งฮาทำเอาพระเอกแทบใจสั่น เคมีดีมากทำเอาน้ำตาลขึ้นจอแสงสีและองค์ประกอบ แสงสีภาพเรื่องนี้ถ่ายทำออกมาได้ดีมากๆยิ่งฉากที่เป็นอุบัติเหตุและภัยอันตรายต่างๆถ่ายทำและจัดฉากออกมาได้สมจริงสุดๆ อย่างเช่นฉากแผ่นดินไหวฉากไฟไหม้รถชนบอกเลยเป๊ะมาก รวมถึงการทำงานในอาชีพนักผจญเพลิงคิวของนักแสดงดีทุกจุดเลย เสื้อผ้าหน้าผมไม่มีอะไรมากส่วนมากเป็นชุดประจำของนักผจญเพลิงและชุดลำลอง ที่ทันสมัยและแฟชั่นหน่อยก็คงจะเป็นชุดนางเอก ฉากและตอนที่ประทับใจ เป็นฉากที่นางเอกสารภาพรักและตามจีบพระเอกทั้งน่ารักและฮามากเมื่อพระเอกยืนอยู่หน้าสำนักงานพร้อมกับลูกน้องโดยมีนางเอกเดินเข้าไปใกล้ๆและตะโกนบอกว่าเรามาคบกันไหมถึง 2 รอบแม้ว่าพระเอกจะปฏิเสธแต่นางเอกก็ดีใจ เพราะโล่งใจที่พระเอกนั้นอาจปฏิเสธผู้หญิงทุกคน เพราะฉะนั้นเธอจะไม่มีศัตรูหัวใจด้วยความคิดของนางเอก วิดีโอตัวอย่างให้คะแนนเรื่องนี้ 10/10 คะแนนเต็มจากที่ดูตัวอย่างแล้วค่อนข้างชอบเลยและพอมาได้ดูก็ถึงกับหลงเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่จัดอยู่ในคิวที่จะดูต่อไป ใครชอบซีรีส์สายอาชีพแต่มีความโรแมนติกแนะนำเรื่องนี้เลยขอบคุณสำหรับการอ่านบทความนี้หากบทความนี้ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยขอบคุณค่ะ🙏เครดิตภาพจาก weibo 电视剧照亮你ภาพปก/ภาพประกอบทึ่ 1, 2,3, 4, 5, 6, 7เครดิตวีดีโอ A Date With the Future (2023) จาก 腾讯视频 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี ! 

No Date เพลงกำลังฮิตจังหวะมันส์กระจายใน Tiktok! GUNNER x BIGSLP
อ่าน

No Date เพลงกำลังฮิตจังหวะมันส์กระจายใน Tiktok! GUNNER x BIGSLP

       “ว้ายตายแล้วค้าบสักปลาคราฟมึงได้ปลาดุกคลองเตย” หากร้องท่อนนี้แล้ว เราเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนจะต้องคุ้นหูกันมาแล้วอย่างแน่นอน เพราะเพลงนี้เป็นเพลงสุดฮิตสุดฮอตในแอปพลิเคชัน Tiktok  ที่มีชื่อเพลงคิ้วท์ ๆ ว่า No Date ที่มี user สาย Tiktok นั้นนำไปใส่ในคลิปและ Cover กันอย่างสนุกสนาน วันนี้เราเลยอยากจะพาเพื่อน ๆ นั้นมารับฟังเพลงมันส์ ๆ จังหวะโดนเพลงนี้กันผ่าน ‘No Date เพลงกำลังฮิตจังหวะมันส์กระจายใน Tiktok!’ มาดูกันว่าทำไมเพลงนี้ถึงดังมาแรง? ศิลปินคนร้องคือใครร้อง หากพร้อมแล้วนั้นก็ตามมารับฟังกันได้เลยค่า~ GUNNER x BIGSLP - No Date ( OFFICIAL AUDIO ) PROD.A2X 2GBOY$https://youtu.be/pIKkTXvNnzEแผ่นเสียง เพลง No Date ในTiktok     ในเพลง ‘No Date’ เป็นเพลงแนวแร็ปที่มีจังหวะและเมโลดี้ที้เน้นความเร็วแบบสนุกสนาน แถมยังแอบมีเสียงสแครชแผ่นเสียง SCARTCH เข้ามาผสม ได้ฟีลแบบชวน Dance ไม่ไหว! ซึ่งเหมาะกับ Tiktok เป็นอย่างมาก โดยเป็นสไตล์เพลงที่ส่วนตัวคิดว่าเป็นเอกลักษณ์จ๊าบมาก ๆ ซึ่งเพลง No Date ร้องโดยคู่หูดูโอ้แร็ปเปอร์ที่มาแรงแห่งปีอย่าง GUNNERxBIGSLP ที่ต้องบอกเลยว่ามีความเฉพาะตัว โดยเสียงของทั้งสองมีควาทเท่ โดดเด่น มีความเป็นเอกลักษณ์ชนิดที่ว่าจ๊าบสุด เมื่อฟีจด้วยกันแล้วนั้นเป็นอะไรที่เฟี้ยวคูณสองมากแม่💥https://www.instagram.com/p/CcGPi7ChV1n/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CenvJflhBbv/?igshid=YmMyMTA2M2Y=       และนอกจากทำนองและเสียงร้องในเพลง No Date ที่บอกเลยว่าเลิฟไม่ไหวแล้วนั้นก็จะมีความหมายนี่แหละค่ะที่ฮาโดนใจมาก ๆ โดยคำว่า ‘No Date’ ก็แปลไก้ตรง ๆ ว่าไม่เดท ซึ่งเป็นการพูดถึงหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสาว ๆ เรื่องของเพื่อนที่เมินการจ่ายเงิน อีกทั้งยังมีการ Make fun ขำ ๆ เรื่องของรอยสักอย่างสักปลาคราฟมึงได้ปลาดุกคลองเตย โอ๊ยคือดีแท้NO DATE OUT NOW!!💋 #gunnernetwork#nodatehttps://youtube.com/shorts/65lNBJnnnMc?feature=sharehttps://www.instagram.com/p/CczE5yahK7L/?igshid=YmMyMTA2M2Y=https://www.instagram.com/p/CaKQyQyhT80/?igshid=YmMyMTA2M2Y=       ในส่วนของท่อนที่เราชอบมากที่สุดก็คือท่อนฮุกที่ร้องว่า “ว้ายตายแล้วค้าบ สักปลาคราฟมึงได้ปลาดุกคลองเตย ว้ายตายแล้วค้าบ สักปลาคราฟมึงได้ปลาดุกคลองเตย Hello kitty ไอลูกกะโป๋เด๋ แม่มึงโอ๋เอ๋ ไอแซ่โบ้แซ่แบ้ อะ อะ ตังมึงโบ๋เบ๋แบบว่าบ๋อแบ๋” บอกเลยว่าเป็นหนึ่งท่อนในเพลงที่ฟังแล้วตลกมีความกวนโอ๊ยสุดอะไรสุด และใด ๆ ก็คือติดหูหนักมากกกกก มีการเลือกใช้คำได้ดี เรียกว่าไม่แปลกใจเลยที่จะเป็นเพลงที่มาแรงแห่งปีใน Tiktok 🤣😂No Date Ukulele Version⭐️💋 #gunnernetwork#nodatehttps://m.youtube.com/shorts/JNUu2inp-bo       ซึ่งในส่วนของ Music Video เพลงนี้ก็คือยังไม่มีนะคะ จะใช้ทั้งภาพปกและภาพใน Mv ในเพลงเป็นภาพ Photo Booth ที่ถ่ายจากมุมด้านล่างเท่ ๆ ของทั้ง GUNNERxBIGSLP ถ่ายคู่กัน บอกเลยว่าเท่จ๊าบสุด ๆ ไปเลยละค่ะ❤️‍🔥https://www.instagram.com/p/Cd5zCzohIeM/?igshid=YmMyMTA2M2Y=ช่องทางการติดตาม GUNNER x BIGSLPGUNNERInstagram : @gunner.networkYouTube : GUNNER NETWORKBIGSLPInstagram : @bigslp.zzzYouTube : BIG SLPเป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ No Date เพลงกำลังฮิตจังหวะมันส์กระจายใน Tiktok! ต้องบอกเลยว่าเป็นหนึ่งเพลงแร็ปสุดปังที่ฮิตติดหูทั้งจังหวะและเนื้อร้องชนิดที่ฟังแล้วเอาออกจากหูไปไม่ได้ อยากเต้นตามขึ้นมาทันทีเลยละค่ะ ฮ่า ๆ โดนตอนนี้ยอดวิวทะลุ 1 ล้านไปแบบปัง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว✨ โดยหากเพื่อน ๆคนไหนชื่นชอบและอยากฟังเพลงเท่ ๆ เพลงนี้แบบเต็ม ๆ ก็สามารถเข้าไปรับฟังได้ที่ YouTube : GUNNER NETWORK กันได้เลยค่ะ รวมถึงสามารถเข้าไปติดตามสองหนุ่ม GUNNER และ BIGSLP กันได้ที้ช่องทางต่าง ๆ เลยค่า❤️‍🔥👀🫶🏻 #nodate #gunnernetwork #bigslpเครดิตภาพหน้าปกโดย @bigslp.zzzภาพหน้าปก1 / ภาพหน้าปก2 / ภาพหน้าปก3 เครดิตภาพประกอบบทความโดย@gunner.network : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่5 @bigslp.zzz : ภาพที่3 / ภาพที่4 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดย GUNNER NETWORKGUNNER x BIGSLP - No Date ( OFFICIAL AUDIO ) PROD.A2X 2GBOY$NO DATE OUT NOW!!💋 #gunnernetwork#nodateNo Date Ukulele Version⭐️💋 #gunnernetwork#nodate*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย  https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม  https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565

ซีรีส์สุดน่ารักเรื่อง Please don't date him
อ่าน

ซีรีส์สุดน่ารักเรื่อง Please don't date him

มาแล้ว พบกับซีรีส์คลายเครียด สนุกครบรสสนุกทุกอารมณ์ พระเอกก็งานดี นางเอกก็น่ารักมากเวลายิ้มแต่ละทีโลกสดใสเลยทีเดียวซีรีส์เรื่อง Please don't date him หรือ อีกชื่อหนึ่ง Please don't Meet himบอกเล่าเรื่องราวของโปรแกรมเมอร์สาวที่ตั้งใจพัฒนา AI ที่มีชื่อว่า โจซังชิน เพื่อวิเคราะห์มนุษย์และช่วยผู้คนที่มีความสัมพันธ์ที่ยากลำบาก วันนึงเธอได้ตกหลุมรัก นักดับเพลิงหนุ่มที่ไม่มีโซเชียลมีเดีย และเขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่ AI ของเธอไม่สามารถวิเคราะห์ได้นักแสดงนำ: ซงฮายุน นางเอกผู้หน้าตาดี ยิ้มทีโลกสดใสอีจุนยอง (จุน U-KISS) พระเอกหนุ่มดับเพลิงผู้หล่อเหลาแต่ว่าซุ่มซ่ามนิดนึงซีรีส์เรื่องนี้จะออกแนว แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องของ ซอจีซอง (รับบทโดย ซงฮายุน) พนักงานสาวผู้ทุ่มเทกับการทำงานพัฒนาเทคโนโลยี AI โปรเจกต์ตู้เย็นอัจฉริยะ ซึ่งจู่ ๆ วันหนึ่งเธอได้บังเอิญอัปเดตชิปพิเศษลงไปในตัวเครื่อง แทนที่ตัวตู้เย็นจะทำงานตามรูปแบบที่เคยวางไว้ กลับกลายเป็นว่าระบบสามารถเจาะลึกข้อมูลส่วนตัวเมื่อบอกข้อมูลประวัติเบื้องต้นของบุคคลนั้น ๆตู้เย็นอัจฉริยะนี้จึงกลายเป็นเครื่องมือซึ่งมีฟังก์ชัน AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่นำมาใช้วิเคราะห์ว่าผู้ชายคนไหนที่พวกเธอควรหรือไม่ควรออกเดตด้วยเพื่อต้องการช่วยให้ผู้หญิงสามารถตามหารักแท้ได้โดยไม่เลือกคนที่ผิดอีกต่อไป เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยหาคู่รักนั่นเอง เห็นเนื้อเรื่องก็จะแหวกแนวหน่อยๆ แต่พอได้ลองดูแล้วนั้นยิ่งดูยิ่งน่ารัก หลงรักหนุ่มดับเพลิงเรียบร้อยแล้วจ้าทีนี้ รอดูไม่ไหวแล้วจริงๆ นางเอกก็น่ารัก เพื่อนนางเอกก็น่ารัก แถมคุณหมอก็น่ารัก ดูไป ขำไป ยิ้มไป เครียดๆมา ซีรีส์เรื่องนี้เยียวยาได้จ้า ดูแบบน่ารัก ไม่เครียด ทำให้ดูได้เรื่อยๆเลย รอๆตอนต่อไปอยู่ค่าซีรีส์เรื่องนี้เป็น ซีรีส์สั้น มีทั้งหมดประมาณ 10 ตอนได้ ซึ่งจะออกอากาศอาทิตย์ละ 1 ตอนซับไทยมาทุกวันอังคาร ทางแอพ Viu หรือหาดูในเว็บเมื่อเสิร์ชในgoogleได้ทั่วไป มีซับไทยให้หาดูกันได้แล้วจริงดูไปไม่กี่อีพีบอกเลยน่ารักมาก โดนพระเอกหนุ่มดับเพลิงเรื่องนี้ตกไปแล้วจ้า เนื้อเรื่องไม่ซีเรียสนะ ออกแนวน่ารักๆ แนวความรัก ดูแล้วสบายๆแต่น่าติดตามอย่างบอกไม่ถูก อยากให้ทุกคนลองดูเองขอขอบคุณรูปภาพจากภาพปก    ภาพประกอบที่ 1    ภาพประกอบที่ 2   ภาพประกอบที่ 3